Post#5-152:
บ่ายนี้ ผมนั่งประชุมอยู่กับทีมที่ปรึกษาของบริษัท เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
เป็นธรรมดาของทุกองค์กร...ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ ก็ตาม...ที่ต้องพบเจอและต้องแก้ปัญหากันเป็นกิจวัตร
เพียงแต่ยิ่งองค์กรใหญ่ขึ้น, คนก็เยอะขึ้น, เรื่องก็เยอะขึ้น และจุดที่จะปะทะหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนนอก ก็จะมากขึ้น...ก็เลยทำให้ดูราวกับว่า มันมีความชุลมุนวุ่นวายมากมาย นั่นเอง
...
เมื่อมันมีปัญหาให้แก้ทุกวัน...ลองนึกดูดีๆ ครับ ว่า
เราแก้ปัญหากันถูกจุดมั๊ยหนอ?
แล้วเราแก้ปัญหาเชิงรับหรือว่าเชิงรุก...มากกว่ากัน?
ถ้าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ก็เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน...แปลว่า เราต้องเสียเวลาและทรัพยากรอื่นๆ ไปเปล่าๆ เพราะสุดท้ายปัญหาก็ยังอยู่ตรงนั้น
แต่ถ้าเวลาที่ต้องแก้ปัญหาเชิงรับ แต่ดันไปทำเชิงรุก หรือเวลาที่ต้องทำเชิงรุก ดันไปแก้ปัญหาเชิงรับ...ก็แปลว่า เราจัดลำดับความสำคัญของการแก้ปัญหาได้แย่
ฉะนั้น เวลาที่ต้องดับไฟ...จึงไม่ใช่ชวนคนที่ลำเลียงน้ำ มานั่งคุยเรื่องการป้องกันไฟไหม้
เช่นเดียวกันกับ เมื่อดับไฟลงได้แล้ว...จึงเป็นเวลาหาสาเหตุของไฟไหม้ และวางมาตรการป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำอีก
...รวมถึง ต้องให้ความรู้และฝึกอบรมทุกคนให้รู้วิธีดับไฟ กับป้องกันไฟไหม้ ไปพร้อมๆ กันด้วย...
#NoteToSelf:
- ดับไฟเก่งเป็นเรื่องดี...แต่ป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้เป็นเรื่องน่าชื่นชม
- เวลาเกิดไฟไหม้...เรื่องสำคัญที่สุดก็คือการดับไฟ, ไม่ใช่มัวมาหาว่าต้นเพลิงอยู่ที่ไหน และไม่ใช่มัวแต่โทษกันไปมา ว่าใครทำไฟไหม้ เพราะมันไม่ยังประโยชน์อันใดขึ้นมาเลย
- รบเก่งเป็นขุนพล...ชนะโดยไม่ต้องรบเป็นกุนซือ / ดับไฟเก่ง คือเชิงรับ...ป้องกันไฟไหม้ คือเชิงรุก / แก้ปัญหาเก่ง จึงมิสู้ป้องกันมิให้เกิดปัญหา
Comments
Post a Comment