Post#5-229:
เมื่อเช้านี้ ผมประชุมกับ Business Partner รายหนึ่ง (สมมติว่าชื่อคุณ A นะครับ) เพื่อหารือความเป็นไปได้ของการทำงานร่วมกัน
ตอนหนึ่งของการสนทนา...เราคุยกันถึงเรื่องโครงการที่ทำกับเด็กนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งน่าสนใจมากๆ
คุณ A เล่าว่า มีโครงการหนึ่งที่ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เรียนรู้นอกตำรา...concept ก็ประมาณ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
ฟังปุ๊บผมก็ชอบใจปั๊บ...แล้วก็ทำให้ผมคิดอะไรต่อยอดไปได้มากมายตามประสาคนซนๆ
...
สมัยผมเรียนประถมและมัธยม (ก็ย้อนกลับไปประมาณกว่า 20-30 ปี)...จำได้ว่า เราเรียนกันในห้องเรียนเสียเป็นส่วนใหญ่
มานึกย้อนดู...ผมว่า เราเน้นเรียน “เพื่อไปสอบ” ไม่ได้เน้นเรียนเพื่อจะ “รู้”
“รู้”...เพื่อนำไปต่อยอดใช้กับชีวิตในวันข้างหน้า
...
ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องน่ายินดี...หากว่าสมัยนี้ จะเน้นให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องนอกตำราให้มากขึ้น
เรียนในห้อง เพื่อให้ฉลาด...และเรียนนอกห้อง เพื่อให้เฉลียว
แบบนี้ อนาคตของประเทศก็น่าจะสดใส
...
แล้วพวกเราล่ะครับ...โตๆ กันจนเข้าสู่วัยทำงานแล้ว จะยอมแพ้เด็กๆ กันมั๊ยเอ่ย?
ถ้าวันๆ เราได้แต่ทำงานไปตามขั้นตอน...
โดยที่ไม่รู้ที่มา ว่าต้องทำเพราะอะไร?
และไม่รู้ที่ไป ว่าทำงานนี้ไปเพื่ออะไร?
แบบนี้ ก็ไม่ต่างจาก “เรียนเพื่อไปสอบ”
...
ถ้าคิดแค่ว่า จะไปเรียนด้วยการท่องจำ เอาแค่พอให้สอบผ่าน หรือไปทำงานเพื่อให้ครบ 8 ชั่วโมง แล้วก็รอรับเงินเดือน...แล้วล่ะก็
ผมแนะนำให้ทำบุญเยอะๆ ก็แล้วกันครับ...
เผื่ออะไรๆ ในชีวิตข้างหน้า มันจะไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก
...
ฝากให้ลองไปคิดทบทวนดูเถิดครับ
ถ้าเราไปโรงเรียน...เพื่อที่จะไป “เรียนเพื่อจะรู้”
...เราก็ต้องไปทำงาน เพื่อที่จะไป “ทำให้ได้งาน”...
#NoteToSelf:
- อย่าคิดว่าเรียนจบแล้ว ก็ไม่ต้องเรียนอีกล่ะก็...มัน “ผิด” เพราะ “การเรียนรู้” อยู่คู่กับ “การใช้ชีวิต”
- ท่องจำเพื่อไปสอบ ก็ย่อมได้เกรดพอผ่าน ดังนั้น ถ้าแค่ทำงานเพื่อแค่ให้เสร็จไปวันๆ...จะคาดหวังเกรดประเมินแบบไหนล่ะ?
- สำหรับนักเรียน ก็ให้ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”...แล้วสำหรับเราล่ะ “ลดเวลาเกรียน เพิ่มเวลาสู้” ดีมั๊ย?
Comments
Post a Comment