Skip to main content

Post#5-355: ปรับทุกข์ด้วยความรู้ทัน

Post#5-355:
หลังเวลาเลิกงานเล็กน้อย...มีอดีตลูกน้องคนหนึ่ง (สมมติว่าชื่อ J นะครับ) โทรมาปรับทุกข์ด้วยน้ำเสียงร่าเริง

อ่านไม่ผิดหรอกครับ...เธอปรับทุกข์ด้วยน้ำเสียงสดใส ราวกับกำลังมีความสุขอยู่ก็ไม่ปาน

น้อง J เล่าว่า เธอพยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว...แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก หาทางไปต่อไม่เจอ

จนปัญญาจริงๆ ก็เลยเลือกที่จะโทรหาผม ^^

...

หลังจากคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ...น้อง J ก็สรุปเป็นแนวทางคร่าวๆ ได้ ว่าต้องทำยังไงกับชีวิตต่อดี

เอาจริงๆ ผมแทบไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร...แค่ฟัง แล้วก็ถามคำถามชวนคิดเสียเป็นส่วนใหญ่

ผมว่า ที่น้อง J สรุปแนวทางแก้ปัญหาชีวิตได้...ก็น่าจะเป็นเพราะ Attitude ที่เธอมีต่อชีวิต นั่นเอง

...

แน่นอนว่า ปัญหาที่น้อง J เผชิญอยู่...ก็ไม่ใช่เรื่องขนาดคอขาดบาดตาย แต่ก็นับเป็นปัญหาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต

แต่เพราะเผชิญกับปัญหาอย่างไม่ซึมเศร้าและตีโพยตีพาย...บวกกับรู้จักขอความช่วยเหลือ เมื่อได้ลองทบทวนด้วยตัวเองมาระดับหนึ่ง

จึงทำให้หาข้อสรุปได้ไม่ยาก...

โดยผมแค่ชี้ประเด็นให้ชัดๆ ในจุดที่เธอคิดวกไปเวียนมา เท่านั้นเอง

ต่างจากหลายๆ คน ที่เมื่อเจอปัญหาอย่างน้อง J...กลับไปต่อไม่ได้ ก็เพราะมัวแต่จมจ่อมเศร้าหมองอยู่นั่นเอง

พอใจคิดว่าแพ้”...ก็เลยมองอะไรไม่เห็น ทั้งที่ตาก็ไม่ได้บอด

...

ที่ผมมั่นใจว่า น้อง J มี Attitude ในการต่อสู้ปัญหาได้ดี...ก็เพราะก่อนจบการสนทนา เธอบอกว่า

ที่หนูปรึกษาพี่ด้วยเสียงร่าเริง ไม่ใช่ว่าหนูไม่ได้ลองคิดแก้เอง แล้วเอาปัญหามาโยนให้พี่นะคะ

จริงๆ หนูเครียดพอสมควร แต่ก่อนตัดสินใจปรึกษาพี่ หนูรู้สึกว่า กลุ้มไปก็แก้ปัญหาไม่ได้ แล้วก็คิดว่าถ้าปรึกษาพี่ด้วยเสียงเศร้าๆ ก็จะทำให้พี่ไม่สบายใจไปด้วย

พอคิดได้แบบนี้ หนูก็เลยปลงได้...พี่ก็เลยเป็นเหยื่อ 55555...”

แล้วก็ชวนผมคุยเรื่อยเปื่อยอีกพักใหญ่ๆ

...

ผมฟังน้อง J ปรึกษาปัญหา...แล้วก็ทั้งขำทั้งทึ่งกับ Attitude

ไม่ได้รู้สึกว่าน้องมารบกวนเวลาอะไรเลยครับ...

ดีใจด้วยซ้ำที่น้องนึกถึง...บวกกับโทรมาจังหวะว่างพอดี

เมื่อลองทบทวนหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเองจนถึงที่สุดแล้ว...การเอ่ยปากขอคำแนะนำจากคนที่เราไว้ใจ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรือรบกวนอะไรเลย

...ปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้กลุ้มและเพื่อนก็มีไว้ร่วมทั้งทุกข์และสุข...จริงมั๊ยครับ?...”

#NoteToSelf:

  • ถ้าไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา...เราก็ยังไม่แพ้แน่ๆ / แต่เมื่อถอดใจ...ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แก้ปัญหา
  • ถ้าได้พยายามคิดด้วยตัวเองแล้วจริงๆ (แบบน้อง J)...เวลาปรึกษาคนอื่น เราจะเล่าได้อย่างชัดเจนและตรงประเด็น / ทำให้การให้นำปรึกษาหรือช่วยเหลือ เป็นไปได้โดยง่าย
  • ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เราก็ต้องแก้ปัญหาอยู่ดี...ฉะนั้น เราจะมัวเศร้าไปใย? / เมื่อรู้เท่าทันทุกข์”...ทุกข์นั้น ก็จะเบาบางลงเอง

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...