Post#5-358:
ขึ้นชื่อว่าองค์กรใหญ่...เราต่างมีโอกาสทำงานกับผู้คนมากหน้าหลายตา แตกต่างกันทั้งพื้นเพ, นิสัยใจคอ และวิธีคิด
เราจึงไม่อาจจะทำอะไรเป็นที่ถูกใจคนทุกคน และในทำนองเดียวกัน หลายๆ คนก็อาจจะทำอะไรไม่ถูกใจเราบ้าง
บ่อยครั้งเราจึงอาจต้องยืนอยู่ระหว่างความถูกต้องและความถูกใจ
...
เอาจริงๆ ผมว่า แม้เราจะไม่สามารถผสมผสานความถูกต้องกับความถูกใจไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวเสมอไป...แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะทำ
ส่วนมาก เรามักจะโดน ego บังตา...ทำให้เราคิดเข้าข้างตัวเองว่า เรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง ก็เลยทำให้ทีมที่เกี่ยวข้องต้อง suffer แบบไม่จำเป็น
ทั้งที่จริงๆ แล้ว...เราเลือกที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง โดยไม่ต้องทำให้ทีมที่เกี่ยวข้องต้อง suffer มากนัก ก็ได้
...
นี่เป็นอาการของคนที่สวม “หัวโขน” ไว้ตลอดเวลา โดยไม่คิดถึงตอนถอด
คนเหล่านี้ มักจะคิดไปเองว่า “เก่งอย่างเดียว” ก็พอ...ทั้งที่จริงๆ แล้ว เราจะอยู่ในองค์กรได้เป็นอย่างดี ด้วย “ความเก่ง” ผสมกับ “ความดีต่อคนรอบข้าง” ต่างหาก
ที่สำคัญ เราต้องจำไว้ให้จงดีว่า ไม่ว่าเราจะเก่งยังไง...เราก็ย่อมมีวันพลาด
และวันที่เราพลาด...เราอาจเสียใจกับ “หัวโขน” ที่เราใส่ไว้จนลืมถอด
...
หากที่ผ่านมา เราช่วยเหลือทุกทีมที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ทำให้ความถูกต้องบิดเบือน...วันที่เราพลาด เราก็จะมีคนเห็นใจ คอยปลอบ และคอยประคองไม่ให้ถึงพื้น
แต่หากวันคืนที่ผ่านมา เราเลือกที่จะสวมหัวโขนโดยไม่เคยสนใจความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง...
ก็อย่าได้ตีโพยตีพายไปเลย...หากว่าวันใดเราพลาด แล้วจะมีแต่คนสมน้ำหน้า
ถึงเวลานั้น เมื่อคิดจะถอดหัวโขนเพื่อซับน้ำตา...ก็คงช้าไปเสียแล้ว ที่จะได้รับความเห็นใจ
...
จงจำไว้เสมอว่า แม้ว่า “ความถูกต้อง” จะเป็นเรื่องที่ต้องยึดถือ...
แต่ “หนทางไปสู่ความถูกต้อง” เป็นเรื่องของ “ทางเลือก”
ยึดความถูกต้อง พร้อมกับประคองทีมรอบข้าง...จึงเป็นเรื่องที่ทำได้
และถูกต้อง พร้อมกับถล่มทีมรอบข้างให้จมดิน เพื่อให้ตัวเองโดดเด่น ก็ย่อมทำได้
...หากแต่เส้นทางไหนเป็นทางที่ควรเลือกเดิน...ผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาและน้ำใจ ย่อมจะหยั่งซึ้งถึงทางนั้นครับ...
#NoteToSelf
- ถูกต้องต้องมาก่อนถูกใจ...แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหักหาญใคร เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้อง
- เรายึดความ “ถูกต้อง” หรือเรายึดความ “ต้องถูก”...ถามตัวเองดูให้จงควร
- ยามเรารุ่งโรจน์ไม่เห็นหัวใคร...ยามเราอับแสง จะร้องหาใครให้เห็นใจดี?
Comments
Post a Comment