Post#2-201:
ช่วงสายถึงหัวค่ำนี้ ผมพบตัวเองอยู่ที่กรุงเวียงจันทน์ เมืองที่น่ารักที่สุดแห่งหนึ่งที่เคยรู้จัก
ประเทศ สปป.ลาวนี้ มีประชากรกว่า 7 ล้านคน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างสำมะโนประชากรอยู่ แต่กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรอาศัยอยู่ในกรุงเวียงจันทน์
สภาพทั่วไปของเวียงจันทน์ก็ไม่ต่างจากจังหวัดหัวเมืองที่เจริญแล้วของประเทศไทยเราเท่าไหร่นัก เรียกว่าถ้าไม่สังเกตป้ายตามท้องถนน เราก็ดูไม่ออกแน่ๆ ว่าอยู่นอกประเทศไทย
แต่ที่น่าจะเป็นที่สบายใจที่สุดของคนไทยเวลามาเยือนที่นี่ก็คือ เราไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนักก็เข้าใจภาษาของพี่น้องชาวเวียงจันทน์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น เรายังสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าด้วยเงินไทยได้อย่างสบายๆ (แต่ว่าอาจจะได้รับเงินทอนเป็นเงินกีบนะครับ) ส่วนค่าเงินที่นี่ก็จะคล้ายๆ กันกับในกลุ่ม CLMV คือค่าเงินเฟ้อสูงมากๆ อย่างทานข้าวมื้อหนึ่งต่อคน ก็อาจจ่ายมื้อละ 120,000 กีบ (1,000 กีบก็ประมาณ 4 บาท) เวลาจ่ายเงินรู้สึกเป็นเศรษฐีชะมัดเลยครับ ^^
เท่าที่ได้พูดคุยและสัมผัส คนลาวนั้นมีความอ่อนน้อมอยู่มาก คำพูดคำจาก็ดูอ่อนโยน ไม่กระโชกโฮกฮาก อารมณ์ประมาณเราคุยกับคนเชียงใหม่ยังไงยังงั้นล่ะครับ
ใบหน้าของคนขายของและให้บริการก็มักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้า และที่น่ารักมากๆ ก็คือเค้ากล้าสบตาและกล้าพูดกล้าคุยกับลูกค้าได้อย่างไม่เคอะเขิน
ตามท้องถนนเริ่มมีรถติดให้สัมผัสกันบ้างแล้ว หากออกนอกบ้านผิดเวลาก็อาจมีเซ็งได้ แต่ก็เรียกได้ว่ายังไม่สาหัสเท่ากับสภาพการจราจรในพม่านะครับ
วิถีชีวิตของคนในเวียงจันทน์เริ่มมีกลิ่นอายของความเป็น urbanite area มากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสแห่ง Globalization ที่เชี่ยวกราก คนมีฐานะในลาวขับรถยี่ห้อหรูขนาดที่ว่า เศรษฐีเมืองไทยมาเห็นต้องร้อง "อู้หู" ด้วยความอิจฉา
ส่วนที่ผมชอบมากเลยก็คือ สาวลาวนุ่งผ้าซิ่นให้เห็นอยู่ทั่วไป และไม่เว้นแม้แต่การได้เห็นสาวลาวนุ่งผ้าซิ่นขับมอร์'ไซค์...ดูเป็นส่วนผสมที่ลงตัวแบบมีเอกลักษณ์พิเศษ ระหว่างความชาตินิยมกับความทันสมัย ^^
แล้วเจอกันใหม่เร็วๆ นี้ครับ...สปป.ลาว
Comments
Post a Comment