Post#2-204:
ค่ำนี้ผมมีโอกาสดีที่ได้พาน้องๆ กลุ่มหนึ่งมาเลี้ยงขอบคุณ
เป็นโชคดีที่บริษัทเล็กๆ ของผมและหุ้นส่วน ยังมีพนักงานที่น่ารักกลุ่มนี้ทำงานให้
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราต้องต่อสู้หนักมาก และแน่นอนว่าผมคงฝ่ามรสุมไม่ไหว หากไม่มีน้องๆ กลุ่มนี้ support
แม้ว่าเลี้ยงอาหารค่ำมื้อนี้ คงไม่อาจตอบแทนน้ำใจที่พวกเค้ามีต่อบริษัทฯ ได้ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้พวกเค้าได้รับรู้ว่า ผมรู้สึกขอบคุณและมองเห็นถึงความสำคัญของพวกเค้า
บรรยากาศในการทานมื้อค่ำก็เป็นไปอย่างเฮฮาและสนุกสนาน ผลัดกันหยิกผลัดกันหยอก แซวกันไปอำกันมา เป็นค่ำคืนทึ่ควรค่าแก่การจดจำ
ผมเชื่อว่า การที่เราได้มาใช้ชีวิตร่วมกับใครก็ตามที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน ให้ได้มาลำบากด้วยกัน หัวเราะและร้องไห้ไปด้วยกันนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันอาจเป็นพันธกิจพิเศษบางอย่างที่ฟ้าได้กำหนดไว้
ไม่มีใครล่วงรู้ได้...เราอาจจะได้มาพบกันเพียงช่วงสั้นๆ แล้วต่างก็ต้องลาจาก หรือเราอาจจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกันอีกยาวนานไปนับสิบๆ ปี
แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ได้แน่ๆ ก็คือเราต่างต้องรวมพลังกันเพื่อทำให้เป้าหมายขององค์กรลุล่วง และเมื่อองค์กรเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง ผู้ที่อยู่ร่วมทุกข์จึงควรเป็นกลุ่มแรกที่ได้ร่วมสุข...หรือมิใช่
องค์กรที่ขาด "ผู้นำ" ย่อมเคว้งคว้าง แต่องค์กรที่ขาด "ผู้ตาม" ก็ย่อมอ้างว้างและเปลี่ยวดาย...น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าฉันใด เจ้านายและลูกน้องจึงต้องพึ่งพากันฉันนั้น
แม้อาจจะมีน้อยกว่าน้อย ที่ใครคนหนึ่งจะอยู่กับองค์กรใดองค์กรหนึ่งไปชั่วชีวิต แต่เวลาที่อยู่ร่วมกันจะมีค่าหรือไม่นั้น ไม่ได้วัดกันด้วยความยาวนาน...หากแต่นับด้วยจำนวนครั้งของความทรงจำที่ดีที่สร้างร่วมกันไว้ต่างหาก
มันย่อมดีเป็นแน่ หากเสี้ยวหนึ่งของเวลาที่เรามาทำงานอยู่ด้วยกัน มีค่าแก่การจดจำในรูปของความทรงจำที่ดี ที่ยิ้มได้เมื่อนึกถึง
หากยังไม่มี moment ที่ว่า...พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นนับหนึ่ง อย่ารอให้คนอื่นเป็นผู้เริ่ม เพราะถ้าเราเริ่มทำก่อน เราก็จะมีความสุขก่อนอย่างแน่นอนครับ
ความทรงจำจะมีค่าและมีชีวิต...ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เกิดจากทุกๆ คนช่วยกันสร้างครับ
Comments
Post a Comment