Post#2-333:
ช่วงนี้ดอกมะลิมีราคาแพงเป็นพิเศษ...ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเพราะอะไร
ถามต่อไปว่า...แล้วช่วงไหนที่ดอกกุหลาบมีราคาแพงกว่าปกติ?
แล้วถ้าถามว่า เรารักแม่แค่วันแม่รึเปล่า? แล้วเรารักคนรักแค่วันเดียวใช่มั๊ย?
แม้ว่าคำตอบคือ "ไม่ใช่" แต่ถามต่อไปว่า เมื่อวันแม่และวันวาเลนไทน์มาถึง มีกี่คนที่เลือกจะไม่ให้ดอกมะลิกับแม่หรือจะซื้อดอกไม้อื่นที่ไม่ใช่ดอกกุหลาบให้คนรัก?
...
บางครั้ง การใช้สิ่งของเชิงสัญลักษณ์บางอย่างในการอธิบายหรือแสดงออกถึงความรู้สึกในใจ ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่น้อย
แม้แม่จะรู้ว่าเรารัก แม้คนรักจะรู้ว่าเรารัก แต่ถ้าวันแม่มาถึง วันวาเลนไทน์มาเยือน เรากลับไม่มีดอกมะลิไปกราบแม่ หรือไม่มีดอกกุหลาบไปฝากคนรัก...ถามว่าแม่และคนรักจะรู้สึกยังไง?
ต่อให้แม่ได้ดอกมะลิจากเราในวันอื่นๆ ก็ไม่มีความหมายเท่าได้รับดอกมะลิในวันแม่ หรือเราลองซื้อดอกกุหลาบให้คนรักทุกวัน แต่ลองยกเว้นไม่ให้เฉพาะวันวาเลนไทน์ดูสิครับ
ออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้มีอาชีพขายดอกไม้ และไม่ได้ส่งเสริมให้เราเสียเงินมากๆ ในการซื้อดอกมะลิหรือดอกกุหลาบแต่อย่างใด ^^
...
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่วิเศษ ไม่ใช่เพราะมนุษย์มีมันสมองที่ชาญฉลาดเท่านั้น หากแต่เพราะมนุษย์มีความละเอียดอ่อนในการแสดงความรู้สึก
ความรู้สึกเป็นเรื่องของหัวใจ ที่ต้องใช้สมองประเมินวิธีที่จะสื่อถึงความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ผ่านการกระทำ คำพูด หรือแม้กระทั่งสิ่งของเชิงสัญลักษณ์
ดอกมะลิที่ลูกให้...จึงไม่ใช่แค่ดอกมะลิทั่วไป หากแต่เป็นดอกมะลิที่บรรจุความรักที่ลูกมีต่อแม่ไว้ข้างในนั้นอย่างเต็มเปี่ยม
เฉกเช่นดอกกุหลาบที่ได้รับจากคนที่เรารัก แม้จะแห้งเหี่ยวโรยรา เราก็ไม่อาจตัดใจทิ้งได้โดยง่าย
...
ถามว่าผิดมั๊ย ที่ใครสักคนจะเชื่อในวลีที่ว่า "รักนะ...แต่ไม่แสดงออก" ก็คงจะไม่ผิดหรอกครับ
แต่ทั้งๆ ที่แม่หรือคนรักจะรู้ว่าเรารัก แต่ผมคิดว่าทั้งแม่และคนรักคงยินดีเป็นเท่าทวี หากได้ยินเราบอกรัก หากได้สวมกอดเราบ่อยๆ หรือหากว่าจะได้รับดอกมะลิหรือดอกกุหลาบในวันเชิงสัญลักษณ์
แม้ความรักจะเป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้ด้วยใจ...แต่แน่ใจเถอะครับ ว่าการแสดงออกให้คนที่เรารักเห็น, ได้ยิน และสัมผัสได้นั้นน่ะ...
มันประเมินค่าไม่ได้จริงๆ ครับ ^^
Comments
Post a Comment