Post#2-356:
นอกเหนือไปจาก Ballet แล้ว ช่วงนี้ลูกสาวผมก็เริ่มจะจริงจังกับการเล่น Piano มากเป็นพิเศษ
อาจเพราะยีนจากแม่ ที่ทำให้เธอมีดนตรีอยู่ในหัวใจ และอาจจะเป็นเพราะยีนชอบเอาชนะเป้าหมาย...ที่มีอยู่ในตัวผม
เวลาผมเห็นลูกเล่น Piano...เป็นเวลาที่ผมเห็นความมุ่งมั่นในแววตาและความสุนทรีในอารมณ์ของลูกไปพร้อมๆ กัน
...
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีจังหวะว่างๆ ลูกสาวผมก็มักจะไม่พลาดที่จะซ้อม Piano และเธอจะยินดีมากหากว่าผมอยู่ด้วยพอดี
เมื่อเล่นจบ เธอจะคอยถามผมว่า เธอเล่นดีมั๊ย เธอเก่งรึเปล่า?...ซึ่งส่วนมากแล้ว เธอก็มักจะได้คำตอบจากผมว่า "ดีขึ้นแล้ว แต่ยังดีไม่พอ เล่นให้ดีกว่านี้ได้มั๊ยลูก"
ทุกครั้งที่ได้ยินคำตอบแบบนี้ เธอจะทำหน้าเศร้านิดๆ หงุดหงิดนิดหน่อย...ก่อนที่จะตั้งใจให้มากขึ้นและเริ่มเล่นใหม่ เพื่อเอาชนะเป้าหมายที่ผมตั้งให้ ซึ่งก็คือ "เล่นให้ดีกว่าเดิม"
...
ถ้าเราอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น...เราก็ไม่ควรจะแสวงหา "ความเก่งที่สุด" แต่ควรจะมุ่งไปสู่ "ความเก่งกว่าเดิม"
คำว่า "เก่งที่สุด" เปรียบเสมือน "กรอบ" ที่จำกัดความสามารถ และทำให้เราหลงนึกไปว่า เราเก่งมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเราเก่งที่สุดแล้ว
แต่คำว่า "เก่งกว่า" เปรียบเสมือน เรารื้อ "กรอบ" ทิ้ง และมุ่งหน้าพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีกรอบมาขวางกั้นแล้วนั่นเอง
...
ผมกำหนดเป้าหมายที่ไม่ยากจะเอื้อมถึงให้ลูกสาวอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้เธอพยายามขึ้นอีกนิดก็พอจะถึงเป้าหมายได้
เมื่อเธอเริ่มจะแตะถึงเป้าหมาย ผมก็จะขยับเป้าหมายหนีเธอไปอีกนิด...เป้าหมายของเธอจึงอยู่แค่ "เอื้อมถึง" (หรือฝรั่งเรียกว่า "Arm-length") อยู่เสมอ
การตั้งเป้าให้เรา "เก่งกว่าเดิม" จึงหมายถึงการตั้งเป้าเล็กๆ ให้กับตัวเองในทุกๆ วัน และพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายเล็กๆ นั้นไปเรื่อยๆ...เราจึงจะเก่งขึ้นๆ และเก่งกว่าๆ ไปแบบนี้เรื่อยไป...
โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องสนใจว่า "เก่งที่สุด" เป็นแบบไหนเลย...จริงมั๊ยครับ?
Comments
Post a Comment