Post#2-346:
เช้าวันนี้ ผมมัวแต่วุ่นๆ วายๆ กับการแก้ปัญหาสินค้าไม่พอส่งลูกค้า ต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงโรงงานที่เราจ้างผลิตด้วย...เป็นที่อึกทึกครึกโครมและเคร่งเครียดพอดู
ฟังดูเหมือนว่า จะขายสินค้าดีจนส่งไม่ทัน แต่แท้ที่จริงมันเป็นผลพวงมาจากการขาดการประสานงานระหว่างทีมขายและทีมผลิต
สุดท้ายก็ทำให้ทั้งบริษัทฯ ต้องโดนลูกค้าต่อว่า ซึ่งผมได้แต่เชิดหน้าและยืดอกรับผิด เพราะเป็นความผิดพลาดแบบปลาตายน้ำตื้น ซึ่งคนที่น่าตำหนิที่สุด ก็คงไม่ใช่ใคร...นอกจากตัวผมเอง
...
หลังจากวางแนวทางแก้ปัญหาเรียบร้อย ผมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทีมงานทุกส่วน เพื่อระดมกำลังไปช่วยโรงงานที่เราว่าจ้างด้วย
แม้บริษัทของผมจะผิดพลาดกับแผนการผลิต แต่ก็ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้าง ที่ทีมงานทุกคนเข้าใจและยอมยื่นมือมาช่วย...ว่าแล้วทีมผมกว่า 15 ชีวิต ก็มุ่งหน้าตรงไปที่โรงงานโดยทันที
กว่าเราจะเลิกงานในค่ำคืนนี้ ก็คงเกินกว่า 4 ทุ่มไปแล้ว โดยที่พรุ่งนี้อีกวันและคืนเต็มๆ ที่เราก็ต้องระดมกำลังมาทำงานร่วมกับโรงงานอีก
...
สำหรับผมแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลที่แก้ปัญหาในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เรามีต่อลูกค้า ซึ่งคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว เราอาจแทบไม่เหลือกำไรเลยด้วยซ้ำ
แต่สำหรับทีมงานของผมแล้ว ทั้งหมดที่พวกเค้าลงมือทำ ก็เนื่องมาจาก "น้ำใจ" ที่มีต่อบริษัทของผมและแน่นอนว่าเป็นบริษัทของพวกเค้าด้วย
และที่ผมบอกว่าเป็น "น้ำใจ" ก็เพราะมันเป็นงานที่นอกเหนือไปจากหน้าที่ของพวกเค้านั่นเอง
ผมอาจจะไม่ได้มีทีมงานที่เก่งที่สุด...แต่ผมมั่นใจว่า ผมได้ร่วมงานกับหนึ่งในทีมงานที่มีน้ำใจที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วยตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา
...
ผมไม่ได้กำลังมาอวดทีมงานออกสื่อ อีกทั้งไม่ได้กำลังมาป้อยอพวกเค้าเพื่อให้ทำงานให้...แต่ผมเพียงต้องการบอกว่า...หนึ่งในของขวัญที่บรรดาเจ้านายทั้งหลายอยากจะได้มากที่สุด ก็คือ "น้ำใจ" จากพนักงาน นั่นเองครับ
ในยามที่เจ้านายทั้งหลายรู้สึกว่ากำลังจะตกเหว แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือเล็กๆ หลายๆ มือมาช่วยฉุดช่วยดึงช่วยรั้งเค้าเอาไว้
ความรู้สึกแบบนี้นั่นเอง ที่เป็นแรงเกื้อหนุนให้คนที่เป็นเจ้านายรู้สึกว่า...เค้าได้เลือกคนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจได้ไม่ผิดจริงๆ
ขอลูกน้องผู้มีน้ำใจและทุ่มเททุกท่าน ได้รับการคารวะครับ...
เช้าวันนี้ ผมมัวแต่วุ่นๆ วายๆ กับการแก้ปัญหาสินค้าไม่พอส่งลูกค้า ต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงโรงงานที่เราจ้างผลิตด้วย...เป็นที่อึกทึกครึกโครมและเคร่งเครียดพอดู
ฟังดูเหมือนว่า จะขายสินค้าดีจนส่งไม่ทัน แต่แท้ที่จริงมันเป็นผลพวงมาจากการขาดการประสานงานระหว่างทีมขายและทีมผลิต
สุดท้ายก็ทำให้ทั้งบริษัทฯ ต้องโดนลูกค้าต่อว่า ซึ่งผมได้แต่เชิดหน้าและยืดอกรับผิด เพราะเป็นความผิดพลาดแบบปลาตายน้ำตื้น ซึ่งคนที่น่าตำหนิที่สุด ก็คงไม่ใช่ใคร...นอกจากตัวผมเอง
...
หลังจากวางแนวทางแก้ปัญหาเรียบร้อย ผมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากทีมงานทุกส่วน เพื่อระดมกำลังไปช่วยโรงงานที่เราว่าจ้างด้วย
แม้บริษัทของผมจะผิดพลาดกับแผนการผลิต แต่ก็ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้าง ที่ทีมงานทุกคนเข้าใจและยอมยื่นมือมาช่วย...ว่าแล้วทีมผมกว่า 15 ชีวิต ก็มุ่งหน้าตรงไปที่โรงงานโดยทันที
กว่าเราจะเลิกงานในค่ำคืนนี้ ก็คงเกินกว่า 4 ทุ่มไปแล้ว โดยที่พรุ่งนี้อีกวันและคืนเต็มๆ ที่เราก็ต้องระดมกำลังมาทำงานร่วมกับโรงงานอีก
...
สำหรับผมแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลที่แก้ปัญหาในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เรามีต่อลูกค้า ซึ่งคำนวณค่าใช้จ่ายแล้ว เราอาจแทบไม่เหลือกำไรเลยด้วยซ้ำ
แต่สำหรับทีมงานของผมแล้ว ทั้งหมดที่พวกเค้าลงมือทำ ก็เนื่องมาจาก "น้ำใจ" ที่มีต่อบริษัทของผมและแน่นอนว่าเป็นบริษัทของพวกเค้าด้วย
และที่ผมบอกว่าเป็น "น้ำใจ" ก็เพราะมันเป็นงานที่นอกเหนือไปจากหน้าที่ของพวกเค้านั่นเอง
ผมอาจจะไม่ได้มีทีมงานที่เก่งที่สุด...แต่ผมมั่นใจว่า ผมได้ร่วมงานกับหนึ่งในทีมงานที่มีน้ำใจที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานด้วยตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา
...
ผมไม่ได้กำลังมาอวดทีมงานออกสื่อ อีกทั้งไม่ได้กำลังมาป้อยอพวกเค้าเพื่อให้ทำงานให้...แต่ผมเพียงต้องการบอกว่า...หนึ่งในของขวัญที่บรรดาเจ้านายทั้งหลายอยากจะได้มากที่สุด ก็คือ "น้ำใจ" จากพนักงาน นั่นเองครับ
ในยามที่เจ้านายทั้งหลายรู้สึกว่ากำลังจะตกเหว แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือเล็กๆ หลายๆ มือมาช่วยฉุดช่วยดึงช่วยรั้งเค้าเอาไว้
ความรู้สึกแบบนี้นั่นเอง ที่เป็นแรงเกื้อหนุนให้คนที่เป็นเจ้านายรู้สึกว่า...เค้าได้เลือกคนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจได้ไม่ผิดจริงๆ
ขอลูกน้องผู้มีน้ำใจและทุ่มเททุกท่าน ได้รับการคารวะครับ...
Comments
Post a Comment