Post#2-342:
เช้าวานนี้ผมประชุมร่วมกับ MD หนุ่มชาวต่างชาติของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
ความจริงผมรู้จักกันเค้ามานานพอสมควร พูดคุยเรื่องธุรกิจกันก็มากมายหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ลงตัว คลาดกันไปหลาย project แต่เราก็ยังมีติดต่อกันบ้างบางที เรียกว่าเป็นเพื่อนกันกลายๆ ก็ว่าได้
ตอนหนึ่งของการสนทนา ผมก็บอกเค้าว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตาม ผมรู้สึกว่าการแข่งขันมันค่อนข้างจะดุเดือดเหลือเกิน เค้าหัวเราะแล้วตอบผมว่า...
เค้าไม่ได้รู้สึกว่าเค้าแข่งอะไรกับใคร เค้าแค่รู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมอาชีพเยอะดี และน่าจะหาจุดที่อยู่ร่วมกันได้บ้าง
...
ผมไม่ปฏิเสธว่า วิธีคิดของชาวต่างชาตินั้นต่างจากวิธีคิดของคนไทยอยู่มากพอควร และสิ่งที่เค้าพูดมาก็ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน แต่ทุกครั้งที่ได้ฟัง ผมก็แค่คิดว่ามันก็เป็นแค่ประโยคเท่ๆ ประโยคหนึ่งเท่านั้น
หากแต่สายตาของเค้าเวลาที่พูดประโยคที่ว่า ทำให้ผมอึ้ง เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่า เค้าคิดแบบนั้นและรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
หรือจริงๆ แล้ว โลกที่คู่แข่งทางการค้าสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้นั้น...มีอยู่จริงๆ กันนะ?
...
เมื่อครั้งที่ผมยังทำงานอยู่กับบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ผมก็มีโอกาสได้รู้จักกับ "โกะ" หรือหมากล้อม และนั่นเป็นครั้งแรก ที่ผมได้ยินปรัชญาแห่งการอยู่ร่วมกันท่ามกลางการแข่งขัน
จุดประสงค์ของโกะไม่ใช่การทำลายคู่แข่ง หากแต่เป็นการขอแบ่งพื้นที่ซึ่งกันและกัน เรียกว่าต่างคนต่างมีพื้นที่ ใครจะได้ครอบครองพื้นที่มากกว่าหรือน้อยกว่า ก็ว่ากันไป
และไม่มีครั้งไหนจากกว่า 3,000 ปีที่ผ่านมาของโกะ ที่จะมีฝ่ายใดครอบครองพื้นที่ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้เพียงผู้เดียว
...
หากเราไม่คิดว่าคนที่ทำธุรกิจเดียวกันกับเรานั้น เป็นคู่แข่ง เมื่อนั้นเราจะหาวิธีในการอยู่ร่วมกันได้แบบที่เรียกว่า "co-exist" หรือไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะฆ่าหรือทำลายล้างกัน แต่สู้กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
เสมือนปรัชญาแห่งโกะ ที่สอนใจว่า ยิ่งเราคิดทำลายคู่แข่ง เราจะยิ่งตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ยิ่งมุ่งโจมตี ยิ่งมีโอกาสสูญเสีย
หรือที่ปราชญ์แห่งโกะประเทศไทย (คุณก่อศักดิ์, นายกสมาคมหมากล้อมแห่งประเทศไทย) สรุปเป็นวาทะแห่งโกะไว้ว่า...
"ชนะได้เพราะไม่คิดเอาชนะ"
Comments
Post a Comment