Post#3-117:
เชื่อว่าทุกคนคงผ่านการ Count Down ไปแล้วด้วยอารมณ์ชื่นมื่น...สังเกตได้จากพื้นที่บน Socail Media ทั้งหลาย ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข
ผมเองก็ได้ถือโอกาสช่วงหยุดยาวนี้ พักร่างกายที่กรำงานผ่านศึกมาหนักหนาตลอดทั้งปี...แต่ก็ไม่วายแอบมีประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ เหตุเพราะต้องมาประชุมกับชาวต่างชาติ
เรียกว่าเค้าบินมาฉลองปีใหม่ที่เมืองไทยนั่นแหละครับ เลยถือโอกาสประชุมกับผมเสียหน่อย...ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งงาน ว่าอย่างนั้น
...
ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังต้องรอการฟื้นตัวของบ้านเรา...คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริง ว่าการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ทึ่สำคัญที่สุด
ด้วยศักยภาพของประเทศไทย ที่พร้อมพรั่งทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม, แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสถาปัตยกรรม, ประติมากรรม และปฏิมากรรม, วัฒนธรรมและประเพณีอันตระการตา รวมไปถึงอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์...ผมจึงมั่นใจว่า ไทยจะยังคงเป็น Tourist Destination อันยอดเยี่ยมไปได้อีกนาน
ด้วยเหตุดังนี้ เพียงแค่รัฐใช้งบประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายได้รับรู้และสนใจ ก็เป็นอันว่ารายได้จะเข้าประเทศในทันที...ไม่ต้องลงทุนมาก และไม่ต้องรอ
...
แม้ผมจะไม่ใช่ Guru ทางเศรษฐกิจ แต่ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า การท่องเที่ยวจะยังคงเป็นอาวุธสำคัญที่จะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทย...และจะทวีความสำคัญมากขึ้น เมื่อเราเข้าสู่ AEC อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว...ก็คงไม่เป็นที่สงสัยว่า เศรษฐกิจของ AEC จะขยายไปอีกมากมายเท่าไหร่ จากธุรกิจนับร้อยนับพันที่จะต้องแข่งขันในตลาดขนาดมหึมานี้
ดังนั้น นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว...ใครที่รู้ภาษา AEC ก็จะทำให้มี Competitive Advantage เหนือกว่าคนอื่นๆ
พี่น้องแถบอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดติดชายแดนทั้งฝั่งลาวและกัมพูชา ล้วนทราบดีว่า อำนาจการซื้อของประเทศเพื่อนบ้านเรา นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น
ชายตามองไปทางด้านตะวันตกและเหนือ ประเทศเมียนมาร์เอง ก็ถือเป็นประเทศที่น่าจับตามองที่สุดแห่งหนึ่ง
...
น่าแปลกมั๊ยครับ ที่ผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับชายแดนของเรา ล้วนแล้วแต่ขวนขวายที่จะพูดภาษาไทยให้ได้...ไม่ต้องรอ AEC, พวกเค้าเหล่านั้น ต่างก็พูดและฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
หันมามองคนไทยตามแนวชายแดนบ้าง...ไม่แน่ใจว่า มีใครไปส่งเสริมศักยภาพให้กับพี่น้องของเราบ้างมั๊ย?
...
วันนี้ผมอาจจะมาแนวคล้ายๆ นักการเมือง ไปบ้าง...แต่ขอบอกว่า ถ้าคนไทยไม่คิดจะทำอะไรจริงจังกับตลาด AEC แล้วล่ะก็ ผมต้องบอกว่า "เสียของ" ครับ
ประเทศไทยมีพรมแดนติดประเทศ AEC ถึง 4 ประเทศ...ถ้าคุยกันถึงเรื่อง Strategic Location ผมมั่นใจว่าเราไม่เป็นรองใคร
แต่ถ้าเราไม่คิดจะทำอะไร...อีกไม่นาน ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ข้างของเรา ก็จะกลับมาเป็นคนใช้ประโยชน์ของข้อได้เปรียบของประเทศเรา...แทนเรา
ถึงเวลานั้นมาถึงจริงๆ...จะโทษใครดีครับ?
เชื่อว่าทุกคนคงผ่านการ Count Down ไปแล้วด้วยอารมณ์ชื่นมื่น...สังเกตได้จากพื้นที่บน Socail Media ทั้งหลาย ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข
ผมเองก็ได้ถือโอกาสช่วงหยุดยาวนี้ พักร่างกายที่กรำงานผ่านศึกมาหนักหนาตลอดทั้งปี...แต่ก็ไม่วายแอบมีประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ เหตุเพราะต้องมาประชุมกับชาวต่างชาติ
เรียกว่าเค้าบินมาฉลองปีใหม่ที่เมืองไทยนั่นแหละครับ เลยถือโอกาสประชุมกับผมเสียหน่อย...ได้ทั้งเที่ยว ได้ทั้งงาน ว่าอย่างนั้น
...
ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังต้องรอการฟื้นตัวของบ้านเรา...คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริง ว่าการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ทึ่สำคัญที่สุด
ด้วยศักยภาพของประเทศไทย ที่พร้อมพรั่งทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงาม, แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสถาปัตยกรรม, ประติมากรรม และปฏิมากรรม, วัฒนธรรมและประเพณีอันตระการตา รวมไปถึงอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์...ผมจึงมั่นใจว่า ไทยจะยังคงเป็น Tourist Destination อันยอดเยี่ยมไปได้อีกนาน
ด้วยเหตุดังนี้ เพียงแค่รัฐใช้งบประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายได้รับรู้และสนใจ ก็เป็นอันว่ารายได้จะเข้าประเทศในทันที...ไม่ต้องลงทุนมาก และไม่ต้องรอ
...
แม้ผมจะไม่ใช่ Guru ทางเศรษฐกิจ แต่ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า การท่องเที่ยวจะยังคงเป็นอาวุธสำคัญที่จะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทย...และจะทวีความสำคัญมากขึ้น เมื่อเราเข้าสู่ AEC อย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว...ก็คงไม่เป็นที่สงสัยว่า เศรษฐกิจของ AEC จะขยายไปอีกมากมายเท่าไหร่ จากธุรกิจนับร้อยนับพันที่จะต้องแข่งขันในตลาดขนาดมหึมานี้
ดังนั้น นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว...ใครที่รู้ภาษา AEC ก็จะทำให้มี Competitive Advantage เหนือกว่าคนอื่นๆ
พี่น้องแถบอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดติดชายแดนทั้งฝั่งลาวและกัมพูชา ล้วนทราบดีว่า อำนาจการซื้อของประเทศเพื่อนบ้านเรา นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น
ชายตามองไปทางด้านตะวันตกและเหนือ ประเทศเมียนมาร์เอง ก็ถือเป็นประเทศที่น่าจับตามองที่สุดแห่งหนึ่ง
...
น่าแปลกมั๊ยครับ ที่ผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับชายแดนของเรา ล้วนแล้วแต่ขวนขวายที่จะพูดภาษาไทยให้ได้...ไม่ต้องรอ AEC, พวกเค้าเหล่านั้น ต่างก็พูดและฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
หันมามองคนไทยตามแนวชายแดนบ้าง...ไม่แน่ใจว่า มีใครไปส่งเสริมศักยภาพให้กับพี่น้องของเราบ้างมั๊ย?
...
วันนี้ผมอาจจะมาแนวคล้ายๆ นักการเมือง ไปบ้าง...แต่ขอบอกว่า ถ้าคนไทยไม่คิดจะทำอะไรจริงจังกับตลาด AEC แล้วล่ะก็ ผมต้องบอกว่า "เสียของ" ครับ
ประเทศไทยมีพรมแดนติดประเทศ AEC ถึง 4 ประเทศ...ถ้าคุยกันถึงเรื่อง Strategic Location ผมมั่นใจว่าเราไม่เป็นรองใคร
แต่ถ้าเราไม่คิดจะทำอะไร...อีกไม่นาน ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ข้างของเรา ก็จะกลับมาเป็นคนใช้ประโยชน์ของข้อได้เปรียบของประเทศเรา...แทนเรา
ถึงเวลานั้นมาถึงจริงๆ...จะโทษใครดีครับ?
Comments
Post a Comment