Post#3-132:
บ่ายนี้ ลูกสาวผมได้รับโอกาสให้แสดงเป็น Alice ใน Ballet Show ของโรงเรียน Little School of Ballet ที่เธอเรียนอยู่
ช่วง 2 เดือนมานี้ ลูกสาวผมจึงเพิ่มความตั้งใจในการไปเรียน Ballet มากเป็นพิเศษ...และแน่นอนว่าที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือผมและภรรยานั่นเอง
หลังจากว่างเว้นจากการแสดงครั้งแรกไปนานพอดู...นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ผมจะได้เห็นพัฒนาการของลูกในสิ่งที่เธอรักและมีความสุขที่ได้ทำ
...
อย่างที่ผมพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน...เมื่อใดที่เป้าหมายปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า เมื่อนั้นเราจะรู้ได้โดยอัติโนมัติ ว่าเราควรต้องทำอะไรบ้าง
ลูกสาวผมที่ปกติจะออกแนว chill แต่เมื่อเธอรู้ว่าต้องขึ้นแสดง เธอก็เพิ่มความเอาจริงเอาจังขึ้นได้เองโดยไม่ต้องบอก
สำหรับเด็กๆ แล้ว ดูเหมือนว่าการแสดงบนเวทีนั้น จะกลายเป็นแรงผลักสำคัญให้ก้าวหน้าได้ดีกว่าการสอบเสียด้วยซ้ำ
...
การแสดงมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ การ entertain คนดู ในขณะที่การสอบมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ การสอบให้ผ่าน
ฉะนั้นแรงผลักให้ไปสู่เป้าหมายนั้น จึงมีพลังต่างกัน...
อย่างแรกได้รางวัลเป็นเสียงปรบมือ แต่อย่างหลังได้เป็น Certificate...แม้จะทำให้ภูมิใจเหมือนกัน แต่ความอิ่มใจต่างกัน
แบบหนึ่ง ได้ความอิ่มใจจากการทำให้ทั้งตัวเองและผู้อื่นมีความสุข เทียบกับอีกแบบ ที่ได้ความอิ่มใจเฉพาะตัวเอง
เทียบง่ายๆ ว่าเรารับปริญญาตรีสาขานิเทศศาสตร์ เราและครอบครัวดีใจ แต่คนอื่นเฉยๆ แต่หากเรานำความรู้จากปริญญาที่ได้มาแปรเป็นการแสดง...เราและครอบครัวย่อมดีใจ และอีกหลายๆ คนก็ดีใจและมีความสุขกับงานของเราไปด้วยพร้อมๆ กัน
...
การสอบนั้นจำเป็น เพราะเป็นสิ่งทดสอบว่าเรามีพื้นฐานตามมาตรฐานที่ทั่วไปยอมรับหรือไม่...เป็นการวัด Knowledge
ส่วนการแสดงนั้น ผมมองว่ามันจำเป็นไม่น้อยไปกว่า เพราะเป็นสิ่งทดสอบว่า เรานำความรู้ที่ได้มาใช้จริงได้ดีพอหรือไม่...จึงเป็นการวัด Wisdom
นอกจากนั้นแล้ว หากการสอบสอนให้เราเรียนรู้ในเรื่องระเบียบและปัจเจกให้ดี ฉันใด การแสดงก็สอนให้เราเรียนรู้ในเรื่องการแก้ปัญหาและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้ดี ฉันนั้น
บ่ายนี้ ลูกสาวผมได้รับโอกาสให้แสดงเป็น Alice ใน Ballet Show ของโรงเรียน Little School of Ballet ที่เธอเรียนอยู่
ช่วง 2 เดือนมานี้ ลูกสาวผมจึงเพิ่มความตั้งใจในการไปเรียน Ballet มากเป็นพิเศษ...และแน่นอนว่าที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันก็คือผมและภรรยานั่นเอง
หลังจากว่างเว้นจากการแสดงครั้งแรกไปนานพอดู...นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ผมจะได้เห็นพัฒนาการของลูกในสิ่งที่เธอรักและมีความสุขที่ได้ทำ
...
อย่างที่ผมพูดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน...เมื่อใดที่เป้าหมายปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า เมื่อนั้นเราจะรู้ได้โดยอัติโนมัติ ว่าเราควรต้องทำอะไรบ้าง
ลูกสาวผมที่ปกติจะออกแนว chill แต่เมื่อเธอรู้ว่าต้องขึ้นแสดง เธอก็เพิ่มความเอาจริงเอาจังขึ้นได้เองโดยไม่ต้องบอก
สำหรับเด็กๆ แล้ว ดูเหมือนว่าการแสดงบนเวทีนั้น จะกลายเป็นแรงผลักสำคัญให้ก้าวหน้าได้ดีกว่าการสอบเสียด้วยซ้ำ
...
การแสดงมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ การ entertain คนดู ในขณะที่การสอบมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ การสอบให้ผ่าน
ฉะนั้นแรงผลักให้ไปสู่เป้าหมายนั้น จึงมีพลังต่างกัน...
อย่างแรกได้รางวัลเป็นเสียงปรบมือ แต่อย่างหลังได้เป็น Certificate...แม้จะทำให้ภูมิใจเหมือนกัน แต่ความอิ่มใจต่างกัน
แบบหนึ่ง ได้ความอิ่มใจจากการทำให้ทั้งตัวเองและผู้อื่นมีความสุข เทียบกับอีกแบบ ที่ได้ความอิ่มใจเฉพาะตัวเอง
เทียบง่ายๆ ว่าเรารับปริญญาตรีสาขานิเทศศาสตร์ เราและครอบครัวดีใจ แต่คนอื่นเฉยๆ แต่หากเรานำความรู้จากปริญญาที่ได้มาแปรเป็นการแสดง...เราและครอบครัวย่อมดีใจ และอีกหลายๆ คนก็ดีใจและมีความสุขกับงานของเราไปด้วยพร้อมๆ กัน
...
การสอบนั้นจำเป็น เพราะเป็นสิ่งทดสอบว่าเรามีพื้นฐานตามมาตรฐานที่ทั่วไปยอมรับหรือไม่...เป็นการวัด Knowledge
ส่วนการแสดงนั้น ผมมองว่ามันจำเป็นไม่น้อยไปกว่า เพราะเป็นสิ่งทดสอบว่า เรานำความรู้ที่ได้มาใช้จริงได้ดีพอหรือไม่...จึงเป็นการวัด Wisdom
นอกจากนั้นแล้ว หากการสอบสอนให้เราเรียนรู้ในเรื่องระเบียบและปัจเจกให้ดี ฉันใด การแสดงก็สอนให้เราเรียนรู้ในเรื่องการแก้ปัญหาและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้ดี ฉันนั้น
Comments
Post a Comment