Post#3-130:
จะว่าไปแล้ว คนเราล้วนแต่ต้องต่อสู้กับกิเลสต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนดับ...
แม้จะรู้ว่าสุดท้าย เรามิอาจจะเอาอะไรติดตัวไปได้ยามชีพวาย...แต่เราก็มิอาจจะปล่อยวางลาภ ยศ สรรเสริญ ไปได้โดยง่าย
ยิ่งเราอยู่ในสังคมเมืองมากเท่าไหร่ ไอ้เจ้าตัวกิเลสก็ดูเหมือนจะสำแดงศักดาได้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
...
ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ ผมสังเกตว่าชาวตะวันตกเริ่มหันมาสนใจปรัชญาตะวันออก ที่เน้นในเรื่องของจิตวิญญาณมากขึ้นและมากขึ้น
ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในแถบเอเชียของเรา กลับละทิ้งปรัชญาแห่งจิตวิญญาณ หันไปเน้นวัตถุนิยม (Materialism) อย่างไม่ลืมหูลืมตา
ลองนึกดูให้ดีเถิดครับ...ปรัชญาตะวันออก ซึ่งเป็นแก่นแท้ที่ทำให้ "อัตตา" เบาบาง...กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนักหนา ใช่หรือไม่?
...
หันไปดูทางฝั่งตะวันตก ที่เริ่มตระหนักรู้แล้วว่า แท้จริงแล้ว "อัตตา" ก็ไม่ต่างจากโซ่ตรวนที่ยึดตรึงตัวเราไม่ให้หลุดพ้น
ลองพิจารณาคำสอนนี้ดูครับ...
"One of the hardest lessons in life is letting go, whether it's guilt, anger, love, loss or betrayal. Change is never easy. We fight to hold on and we fight to let go."
แปลได้ว่า "บททดสอบที่ยากท่สุดบทหนึ่งของมนุษย์ก็คือ การปล่อยวาง, ไม่ว่ามันจะเป็นความสำนึกผิด, ความโกรธ, ความรัก, ความสูญเสีย หรือความแค้นที่ถูกหักหลัง. ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ. เราต่อสู้เพื่อที่จะให้ได้มา และในขณะเดียวกันเราก็จำต้องต่อสู้เพื่อให้รู้จักปล่อยวางด้วยเช่นกัน"
ไม่ต้องเดาก็คงรู้ว่า คำสอนที่ผ่านตามา ย่อมต้องเป็น "พุทธพจน์" อย่างไม่ต้องสงสัย...
ปรัชญาตะวันออกแห่งแก่นแท้ของวัฏสงสาร...หรือมิใช่ครับ?
จะว่าไปแล้ว คนเราล้วนแต่ต้องต่อสู้กับกิเลสต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนดับ...
แม้จะรู้ว่าสุดท้าย เรามิอาจจะเอาอะไรติดตัวไปได้ยามชีพวาย...แต่เราก็มิอาจจะปล่อยวางลาภ ยศ สรรเสริญ ไปได้โดยง่าย
ยิ่งเราอยู่ในสังคมเมืองมากเท่าไหร่ ไอ้เจ้าตัวกิเลสก็ดูเหมือนจะสำแดงศักดาได้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
...
ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ ผมสังเกตว่าชาวตะวันตกเริ่มหันมาสนใจปรัชญาตะวันออก ที่เน้นในเรื่องของจิตวิญญาณมากขึ้นและมากขึ้น
ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในแถบเอเชียของเรา กลับละทิ้งปรัชญาแห่งจิตวิญญาณ หันไปเน้นวัตถุนิยม (Materialism) อย่างไม่ลืมหูลืมตา
ลองนึกดูให้ดีเถิดครับ...ปรัชญาตะวันออก ซึ่งเป็นแก่นแท้ที่ทำให้ "อัตตา" เบาบาง...กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนักหนา ใช่หรือไม่?
...
หันไปดูทางฝั่งตะวันตก ที่เริ่มตระหนักรู้แล้วว่า แท้จริงแล้ว "อัตตา" ก็ไม่ต่างจากโซ่ตรวนที่ยึดตรึงตัวเราไม่ให้หลุดพ้น
ลองพิจารณาคำสอนนี้ดูครับ...
"One of the hardest lessons in life is letting go, whether it's guilt, anger, love, loss or betrayal. Change is never easy. We fight to hold on and we fight to let go."
แปลได้ว่า "บททดสอบที่ยากท่สุดบทหนึ่งของมนุษย์ก็คือ การปล่อยวาง, ไม่ว่ามันจะเป็นความสำนึกผิด, ความโกรธ, ความรัก, ความสูญเสีย หรือความแค้นที่ถูกหักหลัง. ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ. เราต่อสู้เพื่อที่จะให้ได้มา และในขณะเดียวกันเราก็จำต้องต่อสู้เพื่อให้รู้จักปล่อยวางด้วยเช่นกัน"
ไม่ต้องเดาก็คงรู้ว่า คำสอนที่ผ่านตามา ย่อมต้องเป็น "พุทธพจน์" อย่างไม่ต้องสงสัย...
ปรัชญาตะวันออกแห่งแก่นแท้ของวัฏสงสาร...หรือมิใช่ครับ?
Comments
Post a Comment