Post#3-126:
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เมื่อเช้าผมมีโอกาสนั่งคุยกับ Feng Shui Master ชาวตะวันตก...ก็ที่เราเรียกขานกันว่า "หมอดูฮวงจุ้ย" นี่แหละครับ
แต่ที่แปลกเพราะ หมอดูท่านนี้เป็นฝรั่ง...ที่สำคัญหมอดูท่านนี้ เรียนจบด้วย First-class Honor จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาการบิน ตั้งแต่อายุ 19 ปี!!!
อะไรทำให้คนตะวันตกที่น่าจะอยู่ด้าน Scientific สุดๆ กลับขั้วมาศึกษาศาสตร์ตะวันออกที่ดูเหมือนจะลี้ลับแบบฮวงจุ้ยไปได้?
...
Mr.A (ชื่อสมมตินะครับ) เล่าให้ผมฟังถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้เค้าเปลี่ยนอาชีพจากวิศวกรการบินมาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย ว่าเรื่องทั้งเรื่อง เกิดจากการที่มีหมอดู (ชาวตะวันตก) ท่านหนึ่งมาทำนายทายทักว่า ภรรยาของเค้าจะมีอายุไม่ยืน
ด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับเกียรตินิยม แน่นอนว่า Mr.A ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด และเดินทางไปพบหมอดูท่านนี้ เพื่อต้องการพิสูจน์ว่า เรื่องที่หมอดูเล่า เป็นเรื่องไม่จริง
แทนที่จะได้ไป "ฉะ" หมอดู อย่างที่ตั้งใจ กลับกลายเป็นว่า Mr.A ต้อง surprise จากเรื่องที่หมอดูบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเค้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
นับแต่นั้น Mr.A ก็เริ่มศึกษาศาสตร์ตะวันออกเรื่อยมา จนในที่สุดก็เลิกเป็นวิศวกรการบิน หันมาประกอบอาชีพหมอดูฮวงจุ้ย อย่างเต็มตัว
...
ผมถาม Mr.A ว่า ทำไมไม่ยึดอาชีพหมอดูดวงชะตา ทำไมมาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย...คำตอบของ Mr.A ทำให้ผมต้องหยุดคิดตาม
เค้าให้เหตุผลว่า...
"ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของการจัดกระแสไหลเวียนของพลังงาน เราสามารถปรับแก้ได้ด้วยการปรับสภาพพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้เข้ากับคน
ส่วนการดูดวงชะตามนุษย์หรือการดูลายมือนั้น มันเป็นสิ่งติดตัวที่แก้ไขไม่ได้ ดังนั้น ผมจะไม่ยุ่งกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้"
...
การมาเยือนของ Feng Shui Master ท่านนี้ เป็นความต้องการของผู้ถือหุ้นของผม ซึ่งเชื่อเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
หลังการพบปะพูดคุยกับ Mr.A, ก็เป็นเหตุให้ผมต้องย้ายตำแหน่งโต๊ะทำงาน โดยทันที...
ถ้าใครจำได้...ครั้งหนึ่งผมก็ต้องเปลี่ยนเบอร์มือถือ เพราะเพื่อนเป็นห่วง อยากให้เปลี่ยน (Post#2-75)
จนถึงตรงนี้ ทั้งเรื่องเปลี่ยนเบอร์ก็ดี และเรื่องฮวงจุ้ยก็ดี ผมก็ยังยืนยันว่า ผม "ไม่เชื่อ" มากกว่าที่จะ "เชื่อ" อยู่นั่นเอง
แต่ถ้าสิ่งที่ได้รับการร้องขอให้ทำ เป็นเรื่องที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผมจนเกินไป ผมก็ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนให้...
เพราะอย่างน้อย ทั้งการเปลี่ยนเบอร์และการย้ายตำแหน่งโต๊ะทำงาน...ก็ล้วนเกิดจากคนรอบข้างที่รักและหวังดีกับเรา นั่นเองครับ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เมื่อเช้าผมมีโอกาสนั่งคุยกับ Feng Shui Master ชาวตะวันตก...ก็ที่เราเรียกขานกันว่า "หมอดูฮวงจุ้ย" นี่แหละครับ
แต่ที่แปลกเพราะ หมอดูท่านนี้เป็นฝรั่ง...ที่สำคัญหมอดูท่านนี้ เรียนจบด้วย First-class Honor จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาการบิน ตั้งแต่อายุ 19 ปี!!!
อะไรทำให้คนตะวันตกที่น่าจะอยู่ด้าน Scientific สุดๆ กลับขั้วมาศึกษาศาสตร์ตะวันออกที่ดูเหมือนจะลี้ลับแบบฮวงจุ้ยไปได้?
...
Mr.A (ชื่อสมมตินะครับ) เล่าให้ผมฟังถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้เค้าเปลี่ยนอาชีพจากวิศวกรการบินมาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย ว่าเรื่องทั้งเรื่อง เกิดจากการที่มีหมอดู (ชาวตะวันตก) ท่านหนึ่งมาทำนายทายทักว่า ภรรยาของเค้าจะมีอายุไม่ยืน
ด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับเกียรตินิยม แน่นอนว่า Mr.A ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด และเดินทางไปพบหมอดูท่านนี้ เพื่อต้องการพิสูจน์ว่า เรื่องที่หมอดูเล่า เป็นเรื่องไม่จริง
แทนที่จะได้ไป "ฉะ" หมอดู อย่างที่ตั้งใจ กลับกลายเป็นว่า Mr.A ต้อง surprise จากเรื่องที่หมอดูบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเค้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
นับแต่นั้น Mr.A ก็เริ่มศึกษาศาสตร์ตะวันออกเรื่อยมา จนในที่สุดก็เลิกเป็นวิศวกรการบิน หันมาประกอบอาชีพหมอดูฮวงจุ้ย อย่างเต็มตัว
...
ผมถาม Mr.A ว่า ทำไมไม่ยึดอาชีพหมอดูดวงชะตา ทำไมมาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย...คำตอบของ Mr.A ทำให้ผมต้องหยุดคิดตาม
เค้าให้เหตุผลว่า...
"ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของการจัดกระแสไหลเวียนของพลังงาน เราสามารถปรับแก้ได้ด้วยการปรับสภาพพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้เข้ากับคน
ส่วนการดูดวงชะตามนุษย์หรือการดูลายมือนั้น มันเป็นสิ่งติดตัวที่แก้ไขไม่ได้ ดังนั้น ผมจะไม่ยุ่งกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้"
...
การมาเยือนของ Feng Shui Master ท่านนี้ เป็นความต้องการของผู้ถือหุ้นของผม ซึ่งเชื่อเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
หลังการพบปะพูดคุยกับ Mr.A, ก็เป็นเหตุให้ผมต้องย้ายตำแหน่งโต๊ะทำงาน โดยทันที...
ถ้าใครจำได้...ครั้งหนึ่งผมก็ต้องเปลี่ยนเบอร์มือถือ เพราะเพื่อนเป็นห่วง อยากให้เปลี่ยน (Post#2-75)
จนถึงตรงนี้ ทั้งเรื่องเปลี่ยนเบอร์ก็ดี และเรื่องฮวงจุ้ยก็ดี ผมก็ยังยืนยันว่า ผม "ไม่เชื่อ" มากกว่าที่จะ "เชื่อ" อยู่นั่นเอง
แต่ถ้าสิ่งที่ได้รับการร้องขอให้ทำ เป็นเรื่องที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของผมจนเกินไป ผมก็ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนให้...
เพราะอย่างน้อย ทั้งการเปลี่ยนเบอร์และการย้ายตำแหน่งโต๊ะทำงาน...ก็ล้วนเกิดจากคนรอบข้างที่รักและหวังดีกับเรา นั่นเองครับ
Comments
Post a Comment