Skip to main content

Post#4-209: กินยาตามฉลาก

Post#4-209:
ว่าอันที่จริงผมและคนส่วนใหญ่ ต่างก็รู้ดีครับ ว่ายาน่ะ มีทั้งแบบที่ต้องกินก่อนอาหารและหลังอาหาร

เหตุผลก็แสนง่าย ก็เพราะตัวยานั้นใช้เวลาในการดูดซึมต่างกันนั่นเอง

แต่ทำไมผม (และ/หรือ คนอื่นๆ ด้วยกระมัง?) หลงกินยาผิดมาแสนนาน...คือเรียกว่า กินยาแบบมักง่าย นั่นล่ะครับ

...

ความจริงการกินยาให้ถูกต้องตามที่ฉลากยากำกับไว้นั้น สำคัญมาก

การกินยาก่อนอาหาร, พร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร...อาจทำให้สรรพคุณของยานั้น ผิดเพี้ยนไปได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ส่งผลให้การรักษาด้วยยาน่ะ ไม่ได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เข้าทำนอง ไม่ว่าปืนจะดีแค่ไหน แต่ถ้ายิงไม่ถูก ก็ไม่มีค่า...ประมาณนั้นเลยครับ

...

ในชีวิตจริง เราคงทำอะไรคล้ายๆ กันนี้ไว้ไม่น้อยเลย

การทำผิดลำดับก่อนหลังเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดใหญ่ๆ ตามมาโดยที่เราคาดไม่ถึง ก็เป็นได้...

เคยเปิดประตูโดยไม่เคาะประตูก่อนมั๊ยครับ? จำสายตาคนในห้องที่มองคุณได้มั๊ย?

เคยใส่น้ำปลาลงในก๋วยเตี๋ยวก่อนชิมกันมั๊ยครับ? จำรสชาติก๋วยเตี๋ยวได้มั๊ยครับ?

เคยลางานโดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้าอย่างเหมาะสมมั๊ยครับ? เจ้านายชื่นชมคุณใช่มั๊ยครับ?

เคยหนีเที่ยวโดยไม่บอกแฟนมั๊ยครับ? หลังจากนั้นเป็นไงบ้างครับ?

ดังนั้น กินยาผิดเวลาจึงส่งผลกับการรักษาจริงๆ...และการไม่ให้ความสำคัญกับลำดับก่อนหลัง ก็มีผลกับชีวิตจริงๆ

...กินยาโดยสักแต่ว่ากิน จึงไม่ต่างจากการทำอะไรโดยไม่รู้กาละเทศะ...กินยาผิด อาจหายช้า แต่ทำผิดขั้นตอน อาจไม่จบแค่การขอโทษ...

#NoteToSelf:
- กินยามั่ว ก็ไม่ต่างจากใช้ชีวิตแบบไร้เป้าหมาย, ตายน้ำตื้นจริงๆ
- แค่วินัยในการกินยายังทำไม่ได้ จะไปทำงานใหญ่ๆ ได้ยังไง?
- กาละและเทศะ เป็นเรื่องสำคัญ, ลำดับและขั้นตอน ก็เป็นเรื่องสำคัญ
- ผลไม้ต้องดิบก่อนจะสุก บางเรื่องบางอย่างก็จึงควรทำตามลำดับขั้นตอน

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...