Post#4-225:
ผมพึ่งจะเสร็จจาก Business Dinner กับ Vendor รายหนึ่ง
นอกจากจะเจอกันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว...ผมก็มักถือโอกาสนี้ในการหารือแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนายอดขายให้ดีขึ้นด้วย
เราพูดคุยกันหลากหลายประเด็น รวมไปถึงเคลียร์เรื่องต่างๆ ที่อาจจะขัดเคืองใจหรือไม่เข้าใจต่อกันด้วย...เพื่อให้การทำงานไม่เกิดสะดุดด้วยประเด็นค้างคาใจ
ซึ่งหนึ่งใน "ข้อหา" ที่ผมมักจะโดนยัดเยียดอยู่เสมอก็คือ ผมเข้าข้าง Vendor อีกรายหนึ่งมากกว่าอีกราย
เป็น "ข้อหา" ที่ทำให้ผมยิ้มปนรำคาญใจ เพราะไป Business Dinner กับอีกราย...ผมก็โดนต่อว่าแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะ!
รวมความแล้ว...Vendor ต่างก็อยากให้ตัวเองสำคัญกับลูกค้ามากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ
...
จริงๆ เรื่องนี้พูดยากครับ เพราะเป็นประเด็นเรื่องมุมมองมากกว่าประเด็นอื่นๆ
ไม่ว่าผมจะพยายามรักษาความเป็นกลางยังไงก็ตาม...ยังไงก็จะต้องโดนต่อว่าทุกทีไป ว่าทำไมอีกฝ่ายได้อภิสิทธิ์มากกว่า
และไม่ต้องพยายามอธิบายอะไรให้มากความหรอกครับ...เพราะคำอธิบายนั้น จะถูกตีความว่า เป็น "ข้อแก้ตัว" เสมอ
...
ถามว่า ผมทำยังไง เมื่อโดนต่อว่าแบบนี้?
ไม่ยากครับ...ผมยิ้ม แล้วถามว่า ผมพอจะทำอะไรให้คุณรู้สึกว่า คุณได้อภิสิทธิ์มากขึ้นได้บ้าง?
ถ้าคำขอนั้น ไม่ทำให้ผมผิดเงื่อนไขกับอีกฝ่ายหนึ่ง ผมก็มักจะไม่ขัดข้อง...แน่นอนว่า Vendor ก็มักจะพอใจ
แต่!
แต่ผมก็บอกเค้าไปตรงๆ ว่า ถ้าอีกฝ่ายมาร้องขอแบบเดียวกัน ผมก็ต้องให้เค้าเหมือนกันนะ ดังนั้น ขอให้เค้าทบทวนให้ดีอีกที ว่ายังจะยืนยันตามคำขอที่ผมยอมทำให้มั๊ย?
ถึงตรงนี้ทีไร รอยยิ้มของพวกเค้า...ก็มักจะหายไป -"-
...วิธีการที่ผมใช้...เป็นหนึ่งในเทคนิคการเจรจาต่อรอง ที่ผมเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และคำแนะนำจากผู้ใหญ่...เป็นการ "เตะระเบิด" กลับไปหาคนที่เตะมาก่อน...
#NoteToSelf:
- อย่าเดินไปติดกับดักของคู่เจรจา
- ไล่ให้จำนนต่อข้อเท็จจริง...แล้วจึงยื่นโอกาสให้อีกฝ่ายตัดสินใจแทน
- รู้จักถอยรู้จักรุก...จึงจะถูกหลักการต่อรอง
Comments
Post a Comment