Skip to main content

Post#4-213: ธรรมทาน

Post#4-213:
บ่ายวันนี้ผมคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้า

เปล่าครับ...ผมไม่ได้กำลังจะชวนใครบวชหรือหันหน้าเข้าวัด เพียงแต่เราคุยเรื่องนี้เพื่อเป็นการอุปมาอุปมัยถึงความสำคัญในการถ่ายทอดความรู้

ใครที่เป็นชาวพุทธน่าจะพอทราบความหมายของ "พระปัจเจกพุทธเจ้า" อยู่บ้างนะครับ

แต่เพื่อความมั่นใจและเผื่อแผ่ให้คนที่ไม่รู้จักความหมาย...ผมก็ขออนุญาตอธิบายอีกทีละกันครับ

อันว่าพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็คือพระพุทธเจ้านั่นเองครับ ต่างกันตรงที่หลังจากพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์จะมิทรงเผยแพร่พระธรรมให้กับผู้อื่นได้รับทราบ

...

องค์ความรู้ใดๆ ที่เราเหนื่อยยากขวนขวายบ่มเพาะมาได้...แต่เราเลือกจะเก็บมันไว้เฉพาะตัว ก็จะทำให้เรามีวิถีคล้ายพระปัจเจกพุทธเจ้า

หากแต่ถ้าเราเลือกที่จะเผยแพร่องค์ความรู้ที่เรามีให้กับผู้อื่น (ในห้วงเวลาที่เหมาะสม) เราก็จะมีวิถีที่คล้ายกับองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงปรารถนาที่จะโปรดพุทธบริษัทให้ลุถึงทางนิพพานเช่นพระองค์

ดังนั้น การที่เรายอมทุ่มเทในการถ่ายทอดความรู้ หรือสอนสั่งให้ลูกน้องพัฒนาขึ้น หรือมีชีวิตที่ดีขึ้น...จึ่งถือเป็นการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่ง

การสอนสั่ง, โน้มนำ หรือชักจูง ให้ใครสักคนพ้นจากทางอบาย หลุดจากมิจฉาทิฐิ หรือตาสว่างจากความหลง...เป็นงานที่ต้องอาศัยพลังหลายๆ อย่าง, ต้องใช้บารมีที่หลากหลาย...รวมความแล้ว เป็นงานที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย

ยิ่งธรรมหรือองค์ความรู้ที่เราต้องการจะถ่ายทอดมีความวิสุทธ์มากเท่าใด...การถ่ายทอดนั้น ก็ยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าทวีความ

ธรรมทานจึงเป็นทานที่สูงล้ำเป็นเลิศแห่งทาน...ด้วยประการละฉะนี้

...

เมื่อใดที่เรามีโอกาสที่จะช่วยให้ผู้อื่นพบทางที่ดีขึ้น,ทางที่สว่างขึ้น, ทางที่ทำให้ชีวิตเจริญขึ้น...เราจึงควรลงมือทำ

การที่เราเห็นแก่ประโยชน์สุขของผู้อื่น โดยยอมเสียสละกำลังกาย, กำลังใจ และกำลังอื่นๆ ไปบ้าง...จึงเป็นการทำบุญหรือกุศลอย่างหนึ่ง

อ้อ...แต่ผมแนะนำว่า ไม่ต้องไปมัวเสียเวลาคิดอยู่ล่ะครับ ว่าอานิสงส์ของการทำบุญหรือกุศลในครั้งนี้จะเป็นอะไร

...เพราะทันทีที่เราคิดจะให้ โดยปรารถนาให้คนอื่นเป็นสุขขึ้น...ก็ทำให้จิตของเราถึงพร้อมแล้วด้วยปิติ...อันเป็นโสมนัสแก่วิญญาณยิ่งแล้ว...

#NoteToSelf
  • การเป็นผู้ให้สุขใจกว่าเป็นผู้รับ
  • สพฺพทานํ ธมฺทานํ ชินาติ (การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง)
  • ชี้ทางสว่างให้คนหนึ่งคน เค้าอาจจะกลายเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้กับคนอีกนับพันนับหมื่นคน
  • สุขทันทีที่ปราถนาให้คนอื่นได้ดี


*สนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระปัจเจกพุทธเจ้า เชิญได้ที่ https://th.m.wikipedia.org/wiki/พระปัจเจกพุทธเจ้า

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...