Post#5-084: โรคเฉื่อยชาเหยาะแหยะ
น่าเสียใจอยู่ไม่น้อยเลยครับ...ที่บ่อยครั้ง เราต้องทำงานกับกลุ่มคนที่ขาดความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต
ต้องระวังนะครับ...เพราะโรคเฉื่อยชาหรือเหยาะแหยะนั้น ถือเป็นโรคร้ายแรง
เผลอไผลไปเพียงชั่วพริบตา...รู้สึกตัวอีกที เราอาจติดโรคนี้ไปแล้วเสียก็เป็นได้
...
เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำงานท่ามกลางผู้ป่วยเป็นโรคนี้...จึงมีแต่ต้อง “ออกกำลัง” อย่างสม่ำเสมอให้ตัวเรามี “ภูมิคุ้มกันโรค”
อันว่า การ “ออกกำลัง” ที่ว่านั้น...ผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง คือต้องออกกำลัง “ความคิด” ด้วยการเจริญสติ...เจริญสติเพื่อให้เรา “ตื่นรู้” ว่าเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของความเฉื่อยชา
...
และส่วนที่สอง คือต้องออกกำลัง “กาย” ด้วยการไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปวันๆ...กล่าวคือขวนขวายหาอะไรที่เป็นประโยชน์ทำ เมื่อเกิด idle capacity ขึ้น
เมื่อสติพร้อมและไม่เปิดโอกาสให้เจ้าโรคติดต่อมาเกาะแกะ...แม้จะอยู่ท่ามกลางคนเป็นโรค เราก็จะไม่ติดโรค
...เราเท่านั้น ที่จะเป็นผู้อนุญาตให้ตัวเอง “ติดโรค” หรือไม่...อย่าได้โทษสิ่งแวดล้อม...
#NoteToSelf:
- เรามักจะโทษนั่น นู่น นี่ ว่าทำให้เราเป็นแบบนั้น หรือเป็นแบบนี้...แท้จริงแล้ว เราต่างหากที่ปล่อยให้ตัวเราเป็นไปตาม “กระแสอบาย”
- เมื่อมีสติมั่น กายตื่นพร้อม...ก็ยากที่โรคเฉื่อยชาเหยาะแหยะจะมาเกาะแกะกวนใจเราได้
- ถ้าไม่เผลอใจปล่อยกาย...เราย่อมหลุดพ้นจากการเป็นเหยื่อ หากแต่กลายเป็น “ผู้พิชิตโรค” แทน
Comments
Post a Comment