Post#4-038:
ค่ำวานนี้ ทันทีที่ผมถึงบ้าน เปิดประตูเข้าไปก็พบทุกคนในครอบครัวนั่งทอดอาลัยตาแดงกล่ำรออยู่แล้ว
เราทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก ได้แต่สะอื้นร่ำไห้...ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวของผม ที่แม้จะอายุน้อย แต่ก็รับรู้ถึงข่าวร้ายของชาวไทยทุกคน
หลังทานข้าวเสร็จ...ลูกสาวผมเป็นคนชวนทุกคนเข้าห้องพระ...สวดมนต์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ
...
และเมื่อคืนนี้ ก็เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่ผมเข้านอนทั้งน้ำตานองหน้า และไม่รู้ว่าจะหยุดน้ำตาได้อย่างไร?
ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ...หลับก็อยู่ในห้วงฝันร้าย...สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เจอความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่า...สลับไปสลับมาจนสว่างคาตา
แน่นอนว่า คนไทยอีกเกือบ 70 ล้านคน ก็คงไม่ต่างไปจากผมสักเท่าไรนัก...รู้สึกเคว้งคว้าง, ขาดหลักชัย และมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า
...
ตั้งแต่หลังข่าวในหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อค่ำวาน...ผมก็ได้รับคำปลอบใจจากเพื่อนชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก
จนวันนี้มาทำงานต่างบ้านต่างเมือง...ไม่ว่าใครถามถึงในหลวง ผมก็ไม่อาจจะกลั้นสะอื้นได้...กลายเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในหัวผมเหมือนมีแต่แสงขาวโพลน...สมองตื้อๆ หนักๆ และค่อนข้างเซื่องซึมกว่าปกติไปมาก
แม้จะสั่งใจให้หักห้ามความเสียใจ...แต่ในภวังคจิตของผมนั้น กลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมองที่ไม่อาจสลัดให้พ้นไปจากห้วงคำนึงได้
...
ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็รู้สึกคล้ายๆ กับที่ผมเป็น...และคงไม่อาจหักห้ามใจให้ลืมพระเจ้าแผ่นดินอันทรงเป็นที่รัก ไปได้ในเร็ววัน
แต่เราทุกคนก็จำต้องมีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง...ต้องก้าวผ่านความสูญเสียครั้งนี้ให้ได้...แม้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานหน่อยก็ตาม
...พ่อคงกำลังเฝ้ามองพวกเราอยู่บนสวรรค์ และท่านคงไม่สบายใจนัก หากเราจะต้องจมอยู่กับความเศร้าจนไม่เป็นอันกินอันนอน
...เราจำต้องเข้มแข็งขึ้น เพื่อให้พ่อไม่ต้องคอยเป็นกังวลกับเราเหมือนในอดีตที่ผ่านมา...
#พ่อเหนื่อยมานานหนักหนา #ก็ถึงเวลาที่ท่านจะได้พักให้สบาย #เราต้องยืนอยู่ได้แม้ในวันที่พ่อไม่อยู่ #แต่ผมคิดถึงพ่อ
ค่ำวานนี้ ทันทีที่ผมถึงบ้าน เปิดประตูเข้าไปก็พบทุกคนในครอบครัวนั่งทอดอาลัยตาแดงกล่ำรออยู่แล้ว
เราทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก ได้แต่สะอื้นร่ำไห้...ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวของผม ที่แม้จะอายุน้อย แต่ก็รับรู้ถึงข่าวร้ายของชาวไทยทุกคน
หลังทานข้าวเสร็จ...ลูกสาวผมเป็นคนชวนทุกคนเข้าห้องพระ...สวดมนต์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ
...
และเมื่อคืนนี้ ก็เป็นครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา ที่ผมเข้านอนทั้งน้ำตานองหน้า และไม่รู้ว่าจะหยุดน้ำตาได้อย่างไร?
ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ...หลับก็อยู่ในห้วงฝันร้าย...สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เจอความจริงที่โหดร้ายยิ่งกว่า...สลับไปสลับมาจนสว่างคาตา
แน่นอนว่า คนไทยอีกเกือบ 70 ล้านคน ก็คงไม่ต่างไปจากผมสักเท่าไรนัก...รู้สึกเคว้งคว้าง, ขาดหลักชัย และมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า
...
ตั้งแต่หลังข่าวในหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อค่ำวาน...ผมก็ได้รับคำปลอบใจจากเพื่อนชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก
จนวันนี้มาทำงานต่างบ้านต่างเมือง...ไม่ว่าใครถามถึงในหลวง ผมก็ไม่อาจจะกลั้นสะอื้นได้...กลายเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในหัวผมเหมือนมีแต่แสงขาวโพลน...สมองตื้อๆ หนักๆ และค่อนข้างเซื่องซึมกว่าปกติไปมาก
แม้จะสั่งใจให้หักห้ามความเสียใจ...แต่ในภวังคจิตของผมนั้น กลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมองที่ไม่อาจสลัดให้พ้นไปจากห้วงคำนึงได้
...
ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็รู้สึกคล้ายๆ กับที่ผมเป็น...และคงไม่อาจหักห้ามใจให้ลืมพระเจ้าแผ่นดินอันทรงเป็นที่รัก ไปได้ในเร็ววัน
แต่เราทุกคนก็จำต้องมีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง...ต้องก้าวผ่านความสูญเสียครั้งนี้ให้ได้...แม้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานหน่อยก็ตาม
...พ่อคงกำลังเฝ้ามองพวกเราอยู่บนสวรรค์ และท่านคงไม่สบายใจนัก หากเราจะต้องจมอยู่กับความเศร้าจนไม่เป็นอันกินอันนอน
...เราจำต้องเข้มแข็งขึ้น เพื่อให้พ่อไม่ต้องคอยเป็นกังวลกับเราเหมือนในอดีตที่ผ่านมา...
#พ่อเหนื่อยมานานหนักหนา #ก็ถึงเวลาที่ท่านจะได้พักให้สบาย #เราต้องยืนอยู่ได้แม้ในวันที่พ่อไม่อยู่ #แต่ผมคิดถึงพ่อ
Comments
Post a Comment