Skip to main content

Post#4-048: กฎและกติกา...มีไว้ทำไม?

Post#4-048:
แม้จะเป็นวันหยุดชดเชย แต่ผมและลูกน้องคนหนึ่ง ก็ต้องมาสุมหัวกันเพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับ Conference Call ในวันพรุ่งนี้

บางครั้งการต้องทำงานในวันหยุด ก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย ค่าที่งานดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว...เพราะไม่มีใครติดต่อมา และติดต่อใครก็ไม่ได้

เมื่อมีสมาธิ งานก็เสร็จเร็ว...แต่ข้อสำคัญน่าจะอยู่ที่ อยากให้งานเสร็จไวๆ จะได้ไปทำอย่างอื่นที่ชอบมากกว่า ^^

...

ด้วยความที่เป็นบริษัทเล็กๆ...อะไรที่ช่วยกันได้ เราก็จำเป็นต้องช่วยเหลือกันแบบไม่ค่อยเหลือทางเลือกให้ต้องมาเกี่ยงงอนกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ใช่ว่า เจ้าของกิจการขนาดเล็ก จะสามารถปล่อยให้มีที่ว่างสำหรับคนที่ไม่มีผลงานได้

ไม่อย่างนั้น เราคงไม่มีหน้าไปตอบคำถามคนที่ทำงานทุ่มเทอย่างหนักเพื่อบริษัทได้...จริงมั๊ยครับ?

...

ทุกครั้งที่ผมคุยกับคนรุ่นใหม่ในเรื่องเวลาทำงาน...ก็มักจะได้ยินเรื่องทำไมต้อง "มาเช้า กลับค่ำ" ไปเสียทุกที

จริงอยู่ ที่เราไม่ได้วัดผลงานกันที่เวลาทำงาน...แต่การมาสายบ่อยๆ และกลับตรงเวลาเป๊ะๆ ทุกวัน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม

ตราบเท่าที่เรายังไม่ได้ทำงานใน office ที่ใช้ Flexible Timing หรืออนุญาตให้ Working from Home ได้...ตราบนั้น เราก็จำเป็นจะต้องเคารพกฎและกติกาที่บริษัทกำหนดไว้

โปรดเข้าใจ ว่าที่จริงแล้ว กฎและกติกานั้น อาจไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อคนที่มีความรับผิดชอบเช่นคุณ

...หากแต่มีไว้เพื่อเป็นกรอบให้คนที่ยังมีความรับผิดชอบไม่เพียงพอ ได้ใช้อ้างอิงและไม่หาข้ออ้างใดๆ เพื่อบิดพลิ้ว...

#ยกย่องคนทำงานผู้ทุ่มเท #ให้โอกาสที่สองแก่คนที่ยังไม่เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตัวเองดีพอ #แต่อย่าหวังว่าจะมีโอกาสที่สาม #กฎและกติกามีไว้ทำตามมิใช่ละเลย

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...