Post#4-046:
เช้านี้ผมอาศัย Taxi เพื่อไปทานข้าวเที่ยงกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
หลังลงจากรถ ผมต้องเดินอีกเล็กน้อยเพื่อจะข้ามสะพานไปอีกฟากถนน..อารามที่มัวแต่รีบร้อน เพราะมาล่ากว่าเวลานัดไปมาก ผมก็เลยรีบจ้ำอ้าว
และก็ด้วยเพราะมัวแต่มองไปข้างหน้า ก็เลยทำให้เดินสะดุดพื้นที่ไม่เสมอกัน จนเกือบจะหัวคะมำ...
เคราะห์ดีที่ไม่ถึงกับล้ม...เลยรอดพ้นจากการเจ็บตัวและขายขี้หน้าไปได้
...
จะว่าไป เราต่างก็พบเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ไม่น้อยเลยในชีวิตจริง
ไม่เรามัวแต่มองไปข้างหน้า แล้วทำให้ละเลยปัจจุบัน...เราก็มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน จนลืมที่จะมองไปยังอนาคต
บางคนก็ซ้ำร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมัวแต่เดินเหลียวหลัง ทำให้ปัจจุบันก็แย่ และไม่มีเวลามองไปยังอนาคตเอาเสียเลย
รวมความแล้ว หากไม่รู้จักสร้างสมดุลย์ระหว่างอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต...ก็เป็นอันยากเหลือเกิน ที่เราจะมีชีวิตที่มั่นคงได้
...
ไม่เรียนรู้จากเมื่อวาน อาจทำให้วันนี้ผิดพลาดแบบเดิมๆ
ไม่วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ อาจทำให้เราย่ำเท้าอยู่กับที่
มัวแต่จมจ่อมกับอดีต หรือมัวแต่ฝันเฟื่องอยู่กับอนาคต ก็จะทำให้เราสูญเสียตัวตนในปัจจุบันไป
...จะยังไงก็ตาม มันขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะครับ ว่าจะแบ่งสรรจิตใจสำหรับอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต ในสัดส่วนเท่าไหร่?
...แต่ไม่ว่าจะแบ่งยังไง เราต้องควรต้องระลึกไว้ให้จงดีว่า "ปัจจุบัน" นั้นเอง ที่เป็น "ขณะเวลาเดียว" ที่เรามิอาจละเลย...
#ปัจจุบันเป็นผลจากอดีตฉันใด #อนาคตย่อมเป็นผลจากปัจจุบันฉันนั้น #ไม่สำคัญว่าเราเป็นมาอย่างไร #แต่สำคัญยิ่งว่าเรากำลังจะก้าวไปไหน #แบ่งสรรผิดชีวิตเปลี่ยน
เช้านี้ผมอาศัย Taxi เพื่อไปทานข้าวเที่ยงกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
หลังลงจากรถ ผมต้องเดินอีกเล็กน้อยเพื่อจะข้ามสะพานไปอีกฟากถนน..อารามที่มัวแต่รีบร้อน เพราะมาล่ากว่าเวลานัดไปมาก ผมก็เลยรีบจ้ำอ้าว
และก็ด้วยเพราะมัวแต่มองไปข้างหน้า ก็เลยทำให้เดินสะดุดพื้นที่ไม่เสมอกัน จนเกือบจะหัวคะมำ...
เคราะห์ดีที่ไม่ถึงกับล้ม...เลยรอดพ้นจากการเจ็บตัวและขายขี้หน้าไปได้
...
จะว่าไป เราต่างก็พบเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ไม่น้อยเลยในชีวิตจริง
ไม่เรามัวแต่มองไปข้างหน้า แล้วทำให้ละเลยปัจจุบัน...เราก็มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน จนลืมที่จะมองไปยังอนาคต
บางคนก็ซ้ำร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมัวแต่เดินเหลียวหลัง ทำให้ปัจจุบันก็แย่ และไม่มีเวลามองไปยังอนาคตเอาเสียเลย
รวมความแล้ว หากไม่รู้จักสร้างสมดุลย์ระหว่างอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต...ก็เป็นอันยากเหลือเกิน ที่เราจะมีชีวิตที่มั่นคงได้
...
ไม่เรียนรู้จากเมื่อวาน อาจทำให้วันนี้ผิดพลาดแบบเดิมๆ
ไม่วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ อาจทำให้เราย่ำเท้าอยู่กับที่
มัวแต่จมจ่อมกับอดีต หรือมัวแต่ฝันเฟื่องอยู่กับอนาคต ก็จะทำให้เราสูญเสียตัวตนในปัจจุบันไป
...จะยังไงก็ตาม มันขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะครับ ว่าจะแบ่งสรรจิตใจสำหรับอดีต, ปัจจุบัน และอนาคต ในสัดส่วนเท่าไหร่?
...แต่ไม่ว่าจะแบ่งยังไง เราต้องควรต้องระลึกไว้ให้จงดีว่า "ปัจจุบัน" นั้นเอง ที่เป็น "ขณะเวลาเดียว" ที่เรามิอาจละเลย...
#ปัจจุบันเป็นผลจากอดีตฉันใด #อนาคตย่อมเป็นผลจากปัจจุบันฉันนั้น #ไม่สำคัญว่าเราเป็นมาอย่างไร #แต่สำคัญยิ่งว่าเรากำลังจะก้าวไปไหน #แบ่งสรรผิดชีวิตเปลี่ยน
Comments
Post a Comment