Post#4-045:
หัวค่ำนี้ ผมคุยกับลูกน้องคนหนึ่งถึงวิธีคิดของคนเราในแต่ละช่วงอายุ..ซึ่งผมเดาเอาว่า หลายๆ คนคงเห็นด้วยกับผมไม่น้อย
มุมมองของเราต่อเรื่องใดๆ ก็ตาม ขึ้นอยู่กับหลายเหตุ-ปัจจัย...แต่ที่น่าจะมีอิทธิพลที่สุดก็คงจะเป็นกรอบประสบการณ์ที่เรามีต่อเรื่องที่ว่า
ถ้าเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องที่เราเคยได้ยิน หรือเคยมีประสบการณ์มาก่อน...ก็มีแนวโน้มที่เรา "อาจจะ" สามารถจัดการกับมันได้ดีขึ้นกว่าเดิม
...
แต่ยังไงก็ตาม...การวิเคราะห์กรอบประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา จะต้องแตกต่างกันอย่างค่อนข้างจะแน่นอน ซึ่งมันก็มักจะผันแปรไปตามอายุที่มากขึ้น
เรียกว่า ยิ่งแก่ตัวก็จะยิ่งมีความสุขุมนุ่มลึกในการคิด, วิเคราะห์ และแยกแยะความเป็นมาและความเป็นไปแห่งชีวิต...ว่าอย่างนั้น
เรื่องที่เคยโกรธง่าย...เราก็จะโกรธยากขึ้น, เคยโมโหข้ามวันข้ามคืน...ก็จะหายโมโหเร็วขึ้น, เคยหลงไหลได้ปลื้มกับสิ่งใด...ก็รู้ละวางได้โดยไม่ยึดติด, เคยร้องไห้ฟูมฟาย...ก็อาจจะแค่สะอื้นเล็กๆ, ฯลฯ
...
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้หนอ?
ผมเองก็ไม่อาจจะชี้ชัดลงไปได้...เหตุเพราะยังมิได้บรรลุถึงแก่นแท้แห่งสัจธรรมอันวิเศษ
ได้แต่ตั้งสมมติฐานว่า แท้ที่จริงนั้น "ธาตุพุทธะ" ล้วนมีอยู่ในตัวเราทุกผู้ทุกนาม...ซึ่งรอวันที่จะแสดงตนขึ้นมา เมื่อ "ดวงตาเห็นธรรม" ของแต่ละปัจเจก ได้ถูกกระตุ้นให้ทำงาน
...เมื่อนั้น อนิจจัง, ทุกขัง และอนัตตา อันเป็น "กฎแห่งไตรลักษณ์" จึงจักปรากฏชัดในครรลองแห่งธรรมจักขุ และเปิดปัญญาของเราให้รู้ความเป็นไปแห่งธรรมดาโลก...กระมัง...
#ยิ่งแก่ยิ่งใจเย็นขึ้น #ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องเข้าใจชีวิต #ด้วยเหตุฉะนั้นจึงให้ผลฉะนี้ #อยิจจังทุกขังอนัตตา
หัวค่ำนี้ ผมคุยกับลูกน้องคนหนึ่งถึงวิธีคิดของคนเราในแต่ละช่วงอายุ..ซึ่งผมเดาเอาว่า หลายๆ คนคงเห็นด้วยกับผมไม่น้อย
มุมมองของเราต่อเรื่องใดๆ ก็ตาม ขึ้นอยู่กับหลายเหตุ-ปัจจัย...แต่ที่น่าจะมีอิทธิพลที่สุดก็คงจะเป็นกรอบประสบการณ์ที่เรามีต่อเรื่องที่ว่า
ถ้าเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องที่เราเคยได้ยิน หรือเคยมีประสบการณ์มาก่อน...ก็มีแนวโน้มที่เรา "อาจจะ" สามารถจัดการกับมันได้ดีขึ้นกว่าเดิม
...
แต่ยังไงก็ตาม...การวิเคราะห์กรอบประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา จะต้องแตกต่างกันอย่างค่อนข้างจะแน่นอน ซึ่งมันก็มักจะผันแปรไปตามอายุที่มากขึ้น
เรียกว่า ยิ่งแก่ตัวก็จะยิ่งมีความสุขุมนุ่มลึกในการคิด, วิเคราะห์ และแยกแยะความเป็นมาและความเป็นไปแห่งชีวิต...ว่าอย่างนั้น
เรื่องที่เคยโกรธง่าย...เราก็จะโกรธยากขึ้น, เคยโมโหข้ามวันข้ามคืน...ก็จะหายโมโหเร็วขึ้น, เคยหลงไหลได้ปลื้มกับสิ่งใด...ก็รู้ละวางได้โดยไม่ยึดติด, เคยร้องไห้ฟูมฟาย...ก็อาจจะแค่สะอื้นเล็กๆ, ฯลฯ
...
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้หนอ?
ผมเองก็ไม่อาจจะชี้ชัดลงไปได้...เหตุเพราะยังมิได้บรรลุถึงแก่นแท้แห่งสัจธรรมอันวิเศษ
ได้แต่ตั้งสมมติฐานว่า แท้ที่จริงนั้น "ธาตุพุทธะ" ล้วนมีอยู่ในตัวเราทุกผู้ทุกนาม...ซึ่งรอวันที่จะแสดงตนขึ้นมา เมื่อ "ดวงตาเห็นธรรม" ของแต่ละปัจเจก ได้ถูกกระตุ้นให้ทำงาน
...เมื่อนั้น อนิจจัง, ทุกขัง และอนัตตา อันเป็น "กฎแห่งไตรลักษณ์" จึงจักปรากฏชัดในครรลองแห่งธรรมจักขุ และเปิดปัญญาของเราให้รู้ความเป็นไปแห่งธรรมดาโลก...กระมัง...
#ยิ่งแก่ยิ่งใจเย็นขึ้น #ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องเข้าใจชีวิต #ด้วยเหตุฉะนั้นจึงให้ผลฉะนี้ #อยิจจังทุกขังอนัตตา
Comments
Post a Comment