Skip to main content

Post#4-053: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของมนุษยชาติ

Post#4-053:
เช้านี้ผมมีโอกาสติดตามลูกสาวมาที่ Piano Class หลังจากที่มีอันต้องทำงานบ้าง ติดเดินทางไปต่างประเทศบ้าง อยู่หลายเดือน

ว่าอันที่จริง หากใครพอจะมีกำลัง...ผมว่านี่เป็นเรื่องดีๆ ที่เราอาจได้มีโอกาสปลูกฝังภูมิต้านทานบางอย่างให้กับลูก...

เสมือนให้เค้ามีสิ่งที่ focus และอาจก่อให้เกิดความรักและความผูกพัน จนไม่หลงทางไปหาสิ่งยั่วยุและเลวร้ายต่างๆ ที่ดูจะหาได้ง่ายเหลือเกิน ในสังคมปัจจุบัน

ก็เพราะเราไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่อาจอยู่กับเค้าได้ตลอดไป...

เราจึงต้องใช้เวลาให้มากในขณะที่เค้ายังอายุน้อยๆ ในการปลูกฝังความคิดและอุปนิสัยที่ดี เพื่อให้เค้าใช้เป็นภูมิคุ้มกันในยามที่เค้าอยู่ห่างไกลสายตา หรือในยามที่เราต้องจากเค้าไปก่อนเวลาอันควร

...

การได้เริ่มตั้งแต่ยังอายุน้อย...เราจึงสามารถโน้มนำและปั้นแต่งลูกได้ง่ายกว่าการเริ่มต้นเมื่อเค้าอายุมากขึ้น

ไม่จำเป็นจะต้องเป็น Piano หรอกครับ...จะเป็นเครื่องดนตรีประเภทอื่นก็ได้ ซึ่งผมว่าให้ผลในเชิงกลยุทธ์ และตอบโจทย์ของเราได้ไม่ต่างกัน

พ่อแม่บางท่านเลือกกีฬา...ซึ่งผมว่าก็ใช้ได้ แต่ของผมเป็นลูกสาวและยังอายุน้อย ก็เลยเลือกกิจกรรมที่ไม่มีการปะทะให้เสี่ยง

...

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกๆ คน คงจะเห็นด้วยกับผม ที่ว่า จะไม่มีการลงทุนใดๆ ที่คุ้มค่ามากไปกว่า การลงทุนในตัวลูก

ซึ่งปัจจัยนำเข้าที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการลงทุนที่ว่า...ย่อมต้องมี การปลูกฝังความคิด, การสร้างภูมิต้านทาน และการให้การศึกษาอันเหมาะสม และแน่นอนว่า ต้องพร้อมด้วยการเลี้ยงดูให้พวกเค้าอิ่มท้องและอิ่มใจ...เป็นส่วนประกอบ

การได้เห็นเค้าเติบโตขึ้นทุกวัน...รู้คิด, รู้พูด และรู้ทำ จึงเป็นผลตอบแทนการลงทุนที่มีค่าที่สุด จนไม่อาจหาอะไรมาเทียบได้

...

หากใครเคยปลูกต้นไม้ ย่อมต้องรู้ว่า มันย่อมไม่เติบโต...หากขาดน้ำ, แสงแดด, ปุ๋ย, การดูแลเอาใจใส่ และดนตรี

...ผมว่าการเลี้ยงลูกก็ไม่ต่างจากการเลี้ยงดูต้นไม้

หากแต่ "ลูก" เป็น "มนุษย์" ที่มีความรู้สึกนึกคิดและเจตจำนงที่เป็นอัตลักษณ์ เราจึงไม่อาจใช้ตำราเดียวกันดูแลเค้าได้

...สำหรับลูกแล้ว...เราให้ความรักอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องให้ปัญญาด้วย เพื่อให้เค้าอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและมีคุณค่า...

#นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ #เจ้าจงรู้คิดรู้พูดและรู้ทำนะลูกนะ

#พ่อไม่มีเงินทองจะกองให้ #จงตั้งใจพากเพียรเรียนหนังสือ #หาวิชาความรู้เป็นคู่มือ #เพื่อยึดถือเอาไว้ใช้เลี้ยงกาย

#พ่อกับแม่มีแต่จะแก่เฒ่า #จะเลี้ยงเจ้าเรื่อยไปนั้นอย่าหมาย #ใช้วิชาช่วยตนไปจนตาย #เจ้าสบายแม่กับพ่อก็ชื่นใจ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...