Skip to main content

Post#4-049: คิดถึง "โกะ"

Post#4-049:
จู่ๆ ผมก็คิดถึงการเล่นโกะ (หรือ "หมากล้อม") ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ...ทั้งๆ ที่ผมไม่อาจเรียกตัวเองว่าคนเล่นโกะเป็นเสียด้วยซ้ำ

เอาจริงๆ ผมไม่เคยคิดเสียด้วยซ้ำ ว่าตัวเองจะมีโอกาสมารู้จัก "โกะ" และเคยได้เล่นโกะอยู่นานหลายปี...จนได้ไปทำงานในองค์กรขนาดยักษ์ของประเทศ ที่สนับสนุนให้ทุกคนเล่นโกะอย่างจริงจัง

สมัยนั้น ผมก็เล่นโกะด้วยความสนุกแบบผ่านๆ...แม้จะไม่ได้มุ่งหวังจะให้ตัวเองเป็นเลิศในเรื่องโกะ แต่ก็โมโหตัวเองที่เล่นโกะได้ "ไม่เอาไหน" เสียจริงๆ

...

ครั้งนั้น ผมไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าทำไมหนอ ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย จึงสนับสนุนให้ทุกคนในองค์กรเล่นโกะ

จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้...วันที่ผมกลายมาเป็นผู้นำองค์กร...กลับกลายเป็นว่า ผมยอมรับจากใจจริงๆ ว่า "โกะ" นับเป็นเกมสำหรับผู้บริหาร อย่างแท้จริง

และน่าเสียดาย ที่แม้วันนี้จะอยากเล่นโกะเอามากๆ แต่ก็ไม่อาจจะได้เล่นง่ายๆ เหมือนสมัยที่เคยมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของ Retail Chain Store ที่ดีแบบนั้น...อีกแล้ว

...

มีหลายเหตุผล ที่ทำให้ผมคิดว่า "โกะ" ถือเป็นสุดยอดเกมสำหรับผู้บริหาร...

และอาจจะไม่เกินจริงไปนัก หากจะบอกว่า โกะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาตัวเองให้เป็น "นักบริหารที่ดี"...ได้จริงๆ

ด้วยเหตุเพราะโกะนั้น เน้นให้รู้จักชนะตัวเองก่อนที่จะไปเอาชนะผู้อื่น...พัฒนาตัวเองให้แข็งแรง ก่อนที่จะไปแข่งขันกับภายนอก

...

สำหรับผม...ความน่าหลงใหลแห่งโกะ อาจสรุปเป็นข้อๆ ได้ว่า

หนึ่ง...โกะเป็นเกมที่มี "ปรัชญา" หรือ "หลักคิด" ที่น่ายกย่อง...

ปรัชญาของโกะนั้น แสดงถึงความอ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ...เน้นในการ co-exist โดยไม่จำเป็นต้องฆ่ากันให้ตาย

สรุปเป็นปรัชญาสั้นๆ แต่มีความหมายที่ใหญ่ยิ่งว่า..."ชนะได้โดยไม่คิดเอาชนะ"

...

สองคือ "ความเป็นไปได้" แห่งโกะ ที่อยู่บนสนามรบขนาด 19x19 อันมีความน่าจะเป็นของการเดินหมาก เท่ากับ 19! (อ่านว่า 19 แฟกทอเรียล)

หากแปลง 19! เป็นตัวเลข ก็แค่เอา 1 x 2 x 3 เรื่อยไปจนกระทั่ง x 19 นั่นล่ะครับ...มากขนาดไหนลองกดเครื่องคิดเลข หรือถาม Google ดูก็รู้

เอาเป็นว่า เล่นกันมาเกือบจะสี่พันปี ไม่มีเกมไหนที่เดินหมากเหมือนกันเลยสักกระดานเดียว ก็แล้วกัน

...

สาม...โกะสอนให้รู้จักการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้แสดงประสิทธิภาพได้สูงที่สุด

ไม่ใช่ว่าวางเม็ดหมากเยอะจะแปลว่าชนะ...ตรงกันข้าม วางเม็ดหมากให้น้อยแต่ต้องล้อมพื้นที่ให้ได้มากและแข็งแรงต่างหาก...จึงจะชนะ

และสี่...กฎแห่งโกะนั้นเรียบง่าย...และเพราะเรียบง่ายนั้นเอง...จึงทำให้ความผันแปรและความเป็นไปได้แห่งหมาก เกิดขึ้นได้แบบไม่จำกัด

...สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ดังนั้น ลองเล่นโกะดูเองกันมั๊ยล่ะครับ?...

* สนใจโกะ เชิญได้ที่ thaigo.org หรืออยากเข้าใจโกะแบบการ์ตูน ก็ลอง Google ฮิคารุเซียนโกะ ดูครับ

#ชนะได้เพราะไม่คิดเอาชนะ #ยอมแพ้สนามรบเพื่อชนะสงคราม #ชนะตัวเองยากกว่าชนะคนอื่น #โกะคือหมากกระดานแห่งเทพ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...