Post#4-051:
เช้านี้ผมได้กลับไปเยือนบริษัทเดิมที่เคยทำงานมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว...แต่วันนี้ไปในฐานะ Vendor เพื่อไปเสนอขายสินค้า ^^
เวลาไปเสนอขายสินค้าทีไร...น้องๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน ก็มักจะเขินๆ แล้วก็จะเกร็งๆ ไปเสียทุกที
นอกจากนั้น ผมก็ดีใจที่ได้เจอน้องๆ หลายๆ คนที่เคยลำบากด้วยกันมา...ได้ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ และคุยเล่นกันบ้างตามประสา
ที่ทำเอาผมน้ำตารื้น ก็คือบางคนเข้ามากอด แล้วบอกผมว่า "คิดถึงมาก"...เช่นกันที่ผมไม่เคยลืมวันและคืนที่หัวเราะและร้องไห้ไปกับพวกเค้าเลย
...
แน่นอนว่า ผมย่อมไม่ใช่ "เจ้านายที่ดีที่สุด" ที่น้องๆ เคยมีมา และไม่อาจทำให้น้องๆ รักและเคารพผมได้ทุกคน
แต่การที่มีน้องๆ หลายๆ คน ยังให้ความเคารพและแสดงความคิดถึงให้ผมได้รับรู้...ก็ย่อมหมายความว่า สำหรับพวกเค้าแล้ว ผมก็คงมิใช่เจ้านายที่เลวร้ายจนเกินไปนัก
การได้กลับไปเยือนถิ่นเดิม แล้วยังมีคนยิ้มรับ...จึงมีความหมายยิ่งใหญ่ เพราะแปลว่า เรายังคงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
...
ที่เล่ามา เจตนาผมมิใช่กำลังโอ้อวด...หากแต่อยากจะยกย่องน้องๆ หลายๆ คน ที่จดจำผมในแง่มุมที่งดงาม มากกว่าจะจดจำผมในแง่มุมที่เลวร้าย
ก็เพราะคนเราไม่อาจจะเป็นแต่เจ้านายที่ดีได้ทุกวัน เช่นเดียวกับที่คนเราก็คงไม่อาจเป็นลูกน้องที่ดีได้ตลอดเวลา
สำคัญว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากลากันไป...ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างเลือกที่จะจดจำวันเวลาที่ดีที่ได้ใช้ร่วมกัน มากกว่าจารึกแต่เรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามา รึเปล่า?
ยิ่งผ่านมาเกือบครึ่งชีวิต...ผมก็ยิ่งมั่นใจว่า ชีวิตของคนเรานั้น สั้นเกินกว่าจะเลือกเก็บแต่เรื่องร้ายๆ ไว้กับตัวเราจนนานเกินควร
...
ถ้าไม่ด่วนสรุปจนเกินไปนัก...ผมก็อยากจะบอกว่า คนเราเลือกได้แน่นอน ว่าจะจดจำผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในแง่มุมใด
และคงเป็นอย่างที่ผมเคยแชร์ไว้เมื่อนานมาแล้ว (Post#2-302) ว่า...
"Some people come in your life as blessings. Some come in your life as lessons."
แปลว่า "คนบางคนเข้ามาในชีวิตเราเพื่อเป็นของขวัญ แต่คนบางคนเข้ามาเพื่อเป็นบทเรียน"
...แน่นอนว่า เราไม่อาจบังคับให้ทุกคนเป็นของขวัญได้...แต่เราเลือกจะจดจำแง่มุมที่ใครคนนั้นเป็น "ของขวัญ" และเลือกที่จะซุกบางแง่มุมของใครคนนั้น ไว้เป็น "บทเรียน" ได้แน่ๆ...
#ขอบคุณที่ยังรักและคิดถึงกัน #ขออภัยหากทำให้ใครเคยเจ็บช้ำ #คิดถึงอดีตทีไรแล้วอมยิ้มทุกที #แก่แล้วสินะ
เช้านี้ผมได้กลับไปเยือนบริษัทเดิมที่เคยทำงานมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว...แต่วันนี้ไปในฐานะ Vendor เพื่อไปเสนอขายสินค้า ^^
เวลาไปเสนอขายสินค้าทีไร...น้องๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน ก็มักจะเขินๆ แล้วก็จะเกร็งๆ ไปเสียทุกที
นอกจากนั้น ผมก็ดีใจที่ได้เจอน้องๆ หลายๆ คนที่เคยลำบากด้วยกันมา...ได้ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ และคุยเล่นกันบ้างตามประสา
ที่ทำเอาผมน้ำตารื้น ก็คือบางคนเข้ามากอด แล้วบอกผมว่า "คิดถึงมาก"...เช่นกันที่ผมไม่เคยลืมวันและคืนที่หัวเราะและร้องไห้ไปกับพวกเค้าเลย
...
แน่นอนว่า ผมย่อมไม่ใช่ "เจ้านายที่ดีที่สุด" ที่น้องๆ เคยมีมา และไม่อาจทำให้น้องๆ รักและเคารพผมได้ทุกคน
แต่การที่มีน้องๆ หลายๆ คน ยังให้ความเคารพและแสดงความคิดถึงให้ผมได้รับรู้...ก็ย่อมหมายความว่า สำหรับพวกเค้าแล้ว ผมก็คงมิใช่เจ้านายที่เลวร้ายจนเกินไปนัก
การได้กลับไปเยือนถิ่นเดิม แล้วยังมีคนยิ้มรับ...จึงมีความหมายยิ่งใหญ่ เพราะแปลว่า เรายังคงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
...
ที่เล่ามา เจตนาผมมิใช่กำลังโอ้อวด...หากแต่อยากจะยกย่องน้องๆ หลายๆ คน ที่จดจำผมในแง่มุมที่งดงาม มากกว่าจะจดจำผมในแง่มุมที่เลวร้าย
ก็เพราะคนเราไม่อาจจะเป็นแต่เจ้านายที่ดีได้ทุกวัน เช่นเดียวกับที่คนเราก็คงไม่อาจเป็นลูกน้องที่ดีได้ตลอดเวลา
สำคัญว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากลากันไป...ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างเลือกที่จะจดจำวันเวลาที่ดีที่ได้ใช้ร่วมกัน มากกว่าจารึกแต่เรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามา รึเปล่า?
ยิ่งผ่านมาเกือบครึ่งชีวิต...ผมก็ยิ่งมั่นใจว่า ชีวิตของคนเรานั้น สั้นเกินกว่าจะเลือกเก็บแต่เรื่องร้ายๆ ไว้กับตัวเราจนนานเกินควร
...
ถ้าไม่ด่วนสรุปจนเกินไปนัก...ผมก็อยากจะบอกว่า คนเราเลือกได้แน่นอน ว่าจะจดจำผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตในแง่มุมใด
และคงเป็นอย่างที่ผมเคยแชร์ไว้เมื่อนานมาแล้ว (Post#2-302) ว่า...
"Some people come in your life as blessings. Some come in your life as lessons."
แปลว่า "คนบางคนเข้ามาในชีวิตเราเพื่อเป็นของขวัญ แต่คนบางคนเข้ามาเพื่อเป็นบทเรียน"
...แน่นอนว่า เราไม่อาจบังคับให้ทุกคนเป็นของขวัญได้...แต่เราเลือกจะจดจำแง่มุมที่ใครคนนั้นเป็น "ของขวัญ" และเลือกที่จะซุกบางแง่มุมของใครคนนั้น ไว้เป็น "บทเรียน" ได้แน่ๆ...
#ขอบคุณที่ยังรักและคิดถึงกัน #ขออภัยหากทำให้ใครเคยเจ็บช้ำ #คิดถึงอดีตทีไรแล้วอมยิ้มทุกที #แก่แล้วสินะ
Comments
Post a Comment