Post#4-056:
มื้อค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้มาทานข้าวกับพี่ S (ที่เคยเขียนถึงไว้ใน Post#3-283) และเพื่อนชาวต่างชาติอีกคนหนึ่ง (สมมติว่าชื่อ Mr.K นะครับ)
ระหว่างทานข้าว เราก็คุยกันหลายต่อหลายเรื่อง...และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของความน่าอัศจรรย์ของอาหารจีน
มีอาหารอยู่จานหนึ่งที่เราสั่งมาทาน...พี่ S เล่าให้ฟังว่า ต้องเคี่ยวกระดูกหมูนานกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้ได้น้ำซุปแบบนี้
ผมทานแล้ว...ก็ได้แต่ยอมรับว่า เออหนอ รสชาติของซุปนั้น ไม่ได้หาทานได้ทั่วๆ ไปจริงๆ
...
ย้อนหลังไปกว่า 25 ปีก่อน...คราวที่ผมเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ผมไปประเทศฮ่องกง และจำได้ว่า หนึ่งในอาหารที่ได้ทาน ก็คือน้ำซุปนี่แหละ
คราวนั้น แปลกใจว่า ทำไมผู้ใหญ่ตักแต่น้ำซุป ไม่แตะต้องเนื้อหมูที่นุ่มอร่อยในหม้อเลย...ส่วนผมน่ะ เลือกตักแต่เนื้อหมู ส่วนน้ำซุปน่ะไม่เน้น
ผ่านมาอีกหลายปี จึงรู้ว่า ที่ผู้ใหญ่ทานแต่ซุป ก็เพราะความอร่อยทั้งหลายนั้น ไปรวมอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว...โดยเฉพาะเนื้อหมูน่ะ แทบจะไม่มีรสชาติใดๆ เหลืออยู่อีก
...
อีกคราวที่ได้ไปประเทศเกาหลีครั้งแรก...ก็มีโอกาสได้ทานซัมกเยทัง (หรือไก่ตุ๋นโสม) ครั้งแรก
ตอนนั้นบ้านเรายังไม่รู้จักอาหารเกาหลีดีนัก...แน่นอนว่า ผมเองก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ก็เลยทานแต่ไก่กับข้าวเหนียวและน้ำซุป แด่ดันคีบโสมทิ้งกองไว้เต็มชาม
ผ่านมาอีกหลายปีจึงค่อยรู้ว่า ที่แพงน่ะอยู่ที่โสมกับน้ำซุป ไม่ใช่ข้าวเหนียวกับไก่
และยังมีอาหารอีกหลายชาติ ที่ผมเลือกทาน "ผิดส่วน"...ไปทานส่วนที่ไม่มีราคาและคุณค่าอาหาร เพราะดันไปเทียบกับอาหารไทยเป็นหลัก
...
หลายครั้งมากหน ที่ชีวิตเราก็เป็นแบบนี้...คือการไปให้ความสำคัญกับส่วนปลีกย่อย แต่ดันละเลยส่วนสำคัญไป
สังเกตมั๊ยล่ะครับ บ่อยครั้งที่คนเรามัวแต่ถือสากับเรื่องเล็กน้อย จนทำให้เรื่องสำคัญต้องเสียหาย
ยกตัวอย่างเช่น ถือทิฐิไม่เข้าท่า จนทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ, โกรธเจ้านายในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชิงน้อยใจลาออกไปตกงานอยู่เป็นนาน, ฯลฯ
...
จริงๆ แล้ว คนเราส่วนใหญ่จะมองออกมั๊ยหนอ ว่าส่วนใดเป็นส่วนสำคัญกันแน่?
เหมือนที่ผมคิดว่า ซุปไร้ค่า...ทั้งที่จริงๆ แล้ว เนื้อหมูต่างหากที่ไม่มีค่า
หรือเหมือนที่ผมเข้าใจไปเองว่า ต้องกินเนื้อไก่ให้หมด...ส่วนโสมนั้น คีบทิ้งบ้างก็ได้
ดังนั้น ก่อนจะตัดสินว่า เรื่องใดสำคัญกว่ากันแน่ คงต้องลองตรวจสอบให้แน่ใจก่อนครับ...โดยใช้เหตุผลให้มากกว่าอารมณ์ส่วนตน
และที่สำคัญ อย่าตัดสินใจโดยอาศัยกรอบประสบการณ์แต่เพียงลำพัง เพราะต่างกรรมก็ต่างวาระ และต่างกาลก็อาจได้ข้อสรุปที่แตกต่างกัน
...บ่อยครั้งหรือบางหน...อาจจะ "มีดีที่ซุป" ก็เป็นได้นะครับ...
#ทึกทักเอาเองอาจไม่มีวันถูก #แกล้งทำเป็นรู้จึงไม่มีวันรู้ #ตัดสินด้วยความเคยชินอาจพังไม่เป็นท่า #ยอมรับว่าโง่ก็มีโอกาสฉลาด #เสแสร้งว่าฉลาดอาจโง่ไปอีกนาน
มื้อค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้มาทานข้าวกับพี่ S (ที่เคยเขียนถึงไว้ใน Post#3-283) และเพื่อนชาวต่างชาติอีกคนหนึ่ง (สมมติว่าชื่อ Mr.K นะครับ)
ระหว่างทานข้าว เราก็คุยกันหลายต่อหลายเรื่อง...และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของความน่าอัศจรรย์ของอาหารจีน
มีอาหารอยู่จานหนึ่งที่เราสั่งมาทาน...พี่ S เล่าให้ฟังว่า ต้องเคี่ยวกระดูกหมูนานกว่า 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้ได้น้ำซุปแบบนี้
ผมทานแล้ว...ก็ได้แต่ยอมรับว่า เออหนอ รสชาติของซุปนั้น ไม่ได้หาทานได้ทั่วๆ ไปจริงๆ
...
ย้อนหลังไปกว่า 25 ปีก่อน...คราวที่ผมเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก ผมไปประเทศฮ่องกง และจำได้ว่า หนึ่งในอาหารที่ได้ทาน ก็คือน้ำซุปนี่แหละ
คราวนั้น แปลกใจว่า ทำไมผู้ใหญ่ตักแต่น้ำซุป ไม่แตะต้องเนื้อหมูที่นุ่มอร่อยในหม้อเลย...ส่วนผมน่ะ เลือกตักแต่เนื้อหมู ส่วนน้ำซุปน่ะไม่เน้น
ผ่านมาอีกหลายปี จึงรู้ว่า ที่ผู้ใหญ่ทานแต่ซุป ก็เพราะความอร่อยทั้งหลายนั้น ไปรวมอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว...โดยเฉพาะเนื้อหมูน่ะ แทบจะไม่มีรสชาติใดๆ เหลืออยู่อีก
...
อีกคราวที่ได้ไปประเทศเกาหลีครั้งแรก...ก็มีโอกาสได้ทานซัมกเยทัง (หรือไก่ตุ๋นโสม) ครั้งแรก
ตอนนั้นบ้านเรายังไม่รู้จักอาหารเกาหลีดีนัก...แน่นอนว่า ผมเองก็ไม่รู้จักเหมือนกัน ก็เลยทานแต่ไก่กับข้าวเหนียวและน้ำซุป แด่ดันคีบโสมทิ้งกองไว้เต็มชาม
ผ่านมาอีกหลายปีจึงค่อยรู้ว่า ที่แพงน่ะอยู่ที่โสมกับน้ำซุป ไม่ใช่ข้าวเหนียวกับไก่
และยังมีอาหารอีกหลายชาติ ที่ผมเลือกทาน "ผิดส่วน"...ไปทานส่วนที่ไม่มีราคาและคุณค่าอาหาร เพราะดันไปเทียบกับอาหารไทยเป็นหลัก
...
หลายครั้งมากหน ที่ชีวิตเราก็เป็นแบบนี้...คือการไปให้ความสำคัญกับส่วนปลีกย่อย แต่ดันละเลยส่วนสำคัญไป
สังเกตมั๊ยล่ะครับ บ่อยครั้งที่คนเรามัวแต่ถือสากับเรื่องเล็กน้อย จนทำให้เรื่องสำคัญต้องเสียหาย
ยกตัวอย่างเช่น ถือทิฐิไม่เข้าท่า จนทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ, โกรธเจ้านายในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชิงน้อยใจลาออกไปตกงานอยู่เป็นนาน, ฯลฯ
...
จริงๆ แล้ว คนเราส่วนใหญ่จะมองออกมั๊ยหนอ ว่าส่วนใดเป็นส่วนสำคัญกันแน่?
เหมือนที่ผมคิดว่า ซุปไร้ค่า...ทั้งที่จริงๆ แล้ว เนื้อหมูต่างหากที่ไม่มีค่า
หรือเหมือนที่ผมเข้าใจไปเองว่า ต้องกินเนื้อไก่ให้หมด...ส่วนโสมนั้น คีบทิ้งบ้างก็ได้
ดังนั้น ก่อนจะตัดสินว่า เรื่องใดสำคัญกว่ากันแน่ คงต้องลองตรวจสอบให้แน่ใจก่อนครับ...โดยใช้เหตุผลให้มากกว่าอารมณ์ส่วนตน
และที่สำคัญ อย่าตัดสินใจโดยอาศัยกรอบประสบการณ์แต่เพียงลำพัง เพราะต่างกรรมก็ต่างวาระ และต่างกาลก็อาจได้ข้อสรุปที่แตกต่างกัน
...บ่อยครั้งหรือบางหน...อาจจะ "มีดีที่ซุป" ก็เป็นได้นะครับ...
#ทึกทักเอาเองอาจไม่มีวันถูก #แกล้งทำเป็นรู้จึงไม่มีวันรู้ #ตัดสินด้วยความเคยชินอาจพังไม่เป็นท่า #ยอมรับว่าโง่ก็มีโอกาสฉลาด #เสแสร้งว่าฉลาดอาจโง่ไปอีกนาน
Comments
Post a Comment