Skip to main content

Post#4-076: เมื่อคราวที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจ

Post#4-076:
ช่วงบ่ายของวันนี้ ผมใช้เวลาไปกับการนำเสนอภาพธุรกิจให้กับฝ่ายสินเชื่อของธนาคารแห่งหนึ่ง...เรื่องของเรื่องก็คือจะไปขอวงเงินมาต่อลมหายใจและต่อยอดธุรกิจ นั่นแหละครับ

ว่ากันตามจริงแบบไม่อ้อมค้อม...นอกเหนือไปจากปัญหาเรื่องคนแล้ว เรื่องที่ปวดหัวที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารทั้งหลาย...ก็คือเรื่องการบริหารสภาพคล่องของเงิน

...แปลภาษาไทยให้เป็นไทยก็คือ จะ "หมุนเงิน" ยังไงให้ทัน นั่นเองครับ ^^

...

ในยามนี้ บริษัททั้งหลายก็ต่างพยายามจ่ายหนี้ให้ช้า และเก็บเงินให้เร็วขึ้น...ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการค้า

แต่ที่ไม่ธรรมดา ก็คือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแบบ Chain Reaction (แปลว่า "ปฏิกิริยาลูกโซ่) จากการ "จ่ายช้าๆ รับเร่งๆ" จนทำให้เซซวนกันไปทั้งระบบ

ยิ่งช่วงนี้มีข่าวหนาหูขึ้นมาก ว่าหนี้เสียล้นทะลักระดับเป็นแสนล้านบาทด้วยแล้ว...บอกตรงๆ ว่าผมก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อยู่ไม่น้อย

...

เท่าที่ผมได้ยินมาและรับรู้ด้วยตัวเอง มีหลายบริษัทฯ แล้ว ที่ต้องปิดตัว, หลายบริษัทฯ ต้องลดคน และอีกหลายบริษัทฯ ที่ยังไม่รู้ว่า พรุ่งนี้จะเป็นฉันใด

รวมความแล้ว...สำหรับภาคการค้าขาย ก็ต้องบอกว่ามีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี...ว่างั้น

แล้วต้องทำยังไงดีล่ะ?

...

บอกตรงๆ ครับ...ว่าผมก็ไม่รู้

แต่ที่รู้ก็คือ...เราจะท้อแท้ไม่ได้ เพราะช่วงนี้มันก็เหมือนการปั่นจักรยานผ่านถนนที่ขรุขระมาก

ขืนหยุดเมื่อไหร่เป็นต้องล้ม และเมื่อล้มก็คงเป็นแผลฉกรรจ์...ทำให้กว่าจะขึ้นมาขี่จักรยานได้ใหม่ คงต้องรักษาแผลและซ่อมจักรยานอีกนาน

...

จะทำให้จักรยานทรงตัวอยู่ได้โดยไม่ล้ม...ทั้งเจ้าของและพนักงานต่างต้องช่วยกันประคับประคองจักรยานให้ไปต่อได้

ไม่ใช่ลูกน้องปล่อยให้เจ้าของปั่นไปอย่างเดียวดาย หรือเจ้าของปั่นหนีลูกน้องโดยไม่แยแส

ในยามที่เจอวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้...หากเราทิ้งให้ใครคนใดคนหนึ่งเพลี่ยงพล้ำ...เราอาจรอดในระยะสั้น...แต่ระยะยาว เราต่างก็ไม่มีทางรอดแน่ๆ

...

เมื่อถึงคราวที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจแบบนี้...เราจึงต้องช่วยกันทั้งปั่น, ทั้งจูง และทั้งเข็นจักรยานให้พ้นเขตเงาฝนนี้ไปเสียให้ได้โดยเร็วที่สุด

อยู่เฉยๆ ก็มีแต่จะเปียกปอน และหมดแรง...และสุดท้ายจักรยานก็จะสูญเสียสมดุลย์ แล้วก็ล้ม

...ที่เค้าว่า คนเราจะเห็นใจกันก็ยามยาก...เราก็คงจะได้เห็นกันในคราวนี้เองครับ...

#เมื่อเธอพร้อมฉันก็พร้อมไปด้วยกัน #หากเจ้านายไม่หมดใจลูกน้องก็ไม่ยอมแพ้ #หากลูกน้องถอดใจนายจะสู้เพื่อใครดี #หลังพายุฝนย่อมมีสายรุ้ง #ยิ้มไว้แล้วสู้ต่อเพื่อวันพรุ่งนี้

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...