Post#4-070:
เราคงต้องยอมรับความจริงที่ว่า ไม่ว่าเราจะไปทำงานที่ไหนๆ ในโลกนี้...ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่, จะคนมากหรือน้อย, หรือมีกระบวนการทำงานที่ง่ายหรือยาก ก็แล้วแต่...
ก็รับรองได้ว่า ยังไงเสียทุกคนในองค์กรต่างก็อาจ "เจอปัญหา" ในการทำงานได้ทั้งสิ้น
ถ้าองค์กรนั้นมีการวางโครงสร้างบริหารดี...ก็อาจเจอปัญหาน้อยหน่อย, แต่ถ้าเป็นองค์กรขนาดเล็กที่อิงอยู่กับเจ้าของคนเดียว...เราก็อาจเจอปัญหาได้มากกว่า
...
รวมความแล้ว...ถ้าองค์กรไหนไม่มีปัญหาในการทำงานเลย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะจ้างเราไปทำงาน
ก็เพราะมีปัญหา...เจ้าของหรือผู้บริหาร จึงต้องการจ้างงาน...หรือพูดง่ายๆ ว่า ต้องจ้างคนเพื่อไปแก้ปัญหานั่นเอง
ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือน...ลองอ่านทบทวนอีกเที่ยวก็ดีครับ...จ้างคนเพื่อไปแก้ปัญหา, ไม่ใช่จ้างคนเพื่อไปสร้างปัญหา
...
ต้องทำความเข้าใจก่อนครับ ว่าเจตนาของการจ้างคนนั้น...ไม่ใช่เพื่อทำให้ปัญหากลายเป็นศูนย์ แต่เพื่อทำให้ปัญหาเข้าใกล้ "ศูนย์" ให้มากที่สุด ต่างหาก
จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ได้...เราจำเป็นต้องวางแผนในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ทำไปแก้ไป
ที่ว่าต้องเป็นระบบ เพราะเมื่อเราแก้ปัญหาของเราได้ เราแน่ใจมั๊ยว่า ปัญหานั้นย้ายที่ไปเป็นของฝ่ายอื่นรึเปล่า?
...
อดีตเจ้านายผมสอนไว้เป็นหนักหนาว่า การแก้ปัญหาก็คล้ายการกวาดขยะหน้าบ้าน
ลองนึกดูให้ดีครับ ตอนที่เรากวาดขยะหน้าบ้านน่ะ เรากวาดขยะใส่ที่โกย แล้วนำไปทิ้งลงถัง หรือเราแค่กวาดขยะจากหน้าบ้านเราไปหน้าบ้านคนอื่น กันแน่?
ถ้ากวาดแล้ว รวมขยะไปทิ้ง ก็แปลว่า เราแก้ปัญหาได้ดีในระดับหนึ่ง...แต่ถ้ากวาดขยะแค่พอให้พ้นจากหน้าบ้านของเรา ก็แปลว่า เราแก้ปัญหาแบบขอไปที
หากว่าเราแก้ปัญหาแบบกวาดขยะไปบ้านคนอื่นบ่อยๆ...ไม่นานก็จะไม่มีใครหรือฝ่ายไหนอยากทำงานด้วย
...
จะแก้ปัญหาได้...จำต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนก่อนครับ ว่าอะไรคือปัญหา
เหมือนที่ฝรั่งเคยว่าไว้ว่า "A problem well-stated is a problem half solved."
แปลว่า "การพบสาเหตุที่ถูกต้องของปัญหา ก็เสมือนว่าเราแก้ปัญหานั้นไปครึ่งหนึ่งแล้ว"
...
ดังนั้น ขอสรุปว่า จงอย่ากลัวและอย่าเกลียดปัญหา เพราะไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน เราก็ต้องเจอมันอยู่ดี
เมื่อเจอปัญหา อย่าหนี...แต่จงสู้กับมัน, และหากทำได้ ก็ควรจะสู้กับมันให้เป็นระบบ
และต้องจำไว้ว่า ก่อนจะลงมือแก้ปัญหา เราจำต้องรู้ให้แน่ๆ ก่อนว่า อะไรคือปัญหากันแน่?
เพราะส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาของคนทำงานก็คือ ไม่รู้ว่าปัญหาของปัญหาคืออะไรนั่นเอง (อิอิ...อ่านแล้วงงมั๊ยครับ?)
ท้ายสุด ต้องอย่าลืมว่า องค์กรจ้างเรามาแก้ปัญหา...ไม่ใช่จ้างมาสร้างปัญหา
...และปัญหามีไว้แก้ มิได้มีไว้กลุ้ม...หรือมิใช่ครับ?...
เราคงต้องยอมรับความจริงที่ว่า ไม่ว่าเราจะไปทำงานที่ไหนๆ ในโลกนี้...ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่, จะคนมากหรือน้อย, หรือมีกระบวนการทำงานที่ง่ายหรือยาก ก็แล้วแต่...
ก็รับรองได้ว่า ยังไงเสียทุกคนในองค์กรต่างก็อาจ "เจอปัญหา" ในการทำงานได้ทั้งสิ้น
ถ้าองค์กรนั้นมีการวางโครงสร้างบริหารดี...ก็อาจเจอปัญหาน้อยหน่อย, แต่ถ้าเป็นองค์กรขนาดเล็กที่อิงอยู่กับเจ้าของคนเดียว...เราก็อาจเจอปัญหาได้มากกว่า
...
รวมความแล้ว...ถ้าองค์กรไหนไม่มีปัญหาในการทำงานเลย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะจ้างเราไปทำงาน
ก็เพราะมีปัญหา...เจ้าของหรือผู้บริหาร จึงต้องการจ้างงาน...หรือพูดง่ายๆ ว่า ต้องจ้างคนเพื่อไปแก้ปัญหานั่นเอง
ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือน...ลองอ่านทบทวนอีกเที่ยวก็ดีครับ...จ้างคนเพื่อไปแก้ปัญหา, ไม่ใช่จ้างคนเพื่อไปสร้างปัญหา
...
ต้องทำความเข้าใจก่อนครับ ว่าเจตนาของการจ้างคนนั้น...ไม่ใช่เพื่อทำให้ปัญหากลายเป็นศูนย์ แต่เพื่อทำให้ปัญหาเข้าใกล้ "ศูนย์" ให้มากที่สุด ต่างหาก
จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ได้...เราจำเป็นต้องวางแผนในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ทำไปแก้ไป
ที่ว่าต้องเป็นระบบ เพราะเมื่อเราแก้ปัญหาของเราได้ เราแน่ใจมั๊ยว่า ปัญหานั้นย้ายที่ไปเป็นของฝ่ายอื่นรึเปล่า?
...
อดีตเจ้านายผมสอนไว้เป็นหนักหนาว่า การแก้ปัญหาก็คล้ายการกวาดขยะหน้าบ้าน
ลองนึกดูให้ดีครับ ตอนที่เรากวาดขยะหน้าบ้านน่ะ เรากวาดขยะใส่ที่โกย แล้วนำไปทิ้งลงถัง หรือเราแค่กวาดขยะจากหน้าบ้านเราไปหน้าบ้านคนอื่น กันแน่?
ถ้ากวาดแล้ว รวมขยะไปทิ้ง ก็แปลว่า เราแก้ปัญหาได้ดีในระดับหนึ่ง...แต่ถ้ากวาดขยะแค่พอให้พ้นจากหน้าบ้านของเรา ก็แปลว่า เราแก้ปัญหาแบบขอไปที
หากว่าเราแก้ปัญหาแบบกวาดขยะไปบ้านคนอื่นบ่อยๆ...ไม่นานก็จะไม่มีใครหรือฝ่ายไหนอยากทำงานด้วย
...
จะแก้ปัญหาได้...จำต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนก่อนครับ ว่าอะไรคือปัญหา
เหมือนที่ฝรั่งเคยว่าไว้ว่า "A problem well-stated is a problem half solved."
แปลว่า "การพบสาเหตุที่ถูกต้องของปัญหา ก็เสมือนว่าเราแก้ปัญหานั้นไปครึ่งหนึ่งแล้ว"
...
ดังนั้น ขอสรุปว่า จงอย่ากลัวและอย่าเกลียดปัญหา เพราะไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน เราก็ต้องเจอมันอยู่ดี
เมื่อเจอปัญหา อย่าหนี...แต่จงสู้กับมัน, และหากทำได้ ก็ควรจะสู้กับมันให้เป็นระบบ
และต้องจำไว้ว่า ก่อนจะลงมือแก้ปัญหา เราจำต้องรู้ให้แน่ๆ ก่อนว่า อะไรคือปัญหากันแน่?
เพราะส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาของคนทำงานก็คือ ไม่รู้ว่าปัญหาของปัญหาคืออะไรนั่นเอง (อิอิ...อ่านแล้วงงมั๊ยครับ?)
ท้ายสุด ต้องอย่าลืมว่า องค์กรจ้างเรามาแก้ปัญหา...ไม่ใช่จ้างมาสร้างปัญหา
...และปัญหามีไว้แก้ มิได้มีไว้กลุ้ม...หรือมิใช่ครับ?...
Comments
Post a Comment