Post#4-066:
ขึ้นชื่อว่าสังคมแล้ว จำเป็นต้องมีกฎและระเบียบในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ทุกๆ คนต่างประพฤติและปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบอันควร
บ้านก็มีกฎบ้าน, เมืองก็มีกฎเมือง และบริษัทก็มีกฎบริษัท...ซึ่งต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า กฎมีไว้ให้ปฏิบัติตาม ไม่ใช่มีไว้เพื่อละเมิด
แต่น่าเสียดายที่ผู้คนบางส่วน มักรู้สึกว่า การละเมิดกฎไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ และใครๆ ก็ทำกัน
...
มาสายนิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร, พักเที่ยงเลยไปหน่อย นายคงไม่ว่า, เข้าคิวหน้าเครื่องบันทึกเวลา ก็ไม่น่าเกลียด, นึกอยากจะหยุด ก็หยุดเลย เดี๋ยวลาป่วยเอา, ฯลฯ
เนื่องจากบางครั้งมันก็เป็นอะไรที่ไม่ได้เป็นการละเมิดกฎที่ใหญ่โต, บริษัทก็เลยไม่ค่อยถือสาหาความ...ก็เลยทำให้หลายๆ คนได้ใจ
จากการผิดกฎบางครั้ง...จึงนำไปสู่การผิดกฎบ่อยครั้ง และกลายเป็นเรื่องที่ "ใครๆ ก็ทำกัน" อย่างไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
เมื่อบ่อยครั้งเข้า จนฝ่ายบุคคลหรือนายต้องยกเอากฎมาพูดคุยและทำความเข้าใจกับ "ผู้ละเมิดกฎเป็นนิจ" ที่ว่า...ดราม่าจึงมีอันบังเกิด
...
เราจึงมักได้ยินประโยคประมาณว่า "ใครๆ ก็ทำกัน", "ผิดแค่นิดหน่อยเอง", "บริษัทเรื่องมาก", "ฝ่ายบุคคลงี่เง่า", "นายใจแคบ", ฯลฯ...อยู่บ่อยๆ
แต่เรากลับไม่ค่อยได้หันมาดูตัวเองว่า...อะไรคือเรื่องที่ควรทำ แล้วอะไรคือเรื่องไม่สมควรทำ
ผมว่าแท้ที่จริงแล้ว ไม่มีฝ่ายบุคคลคนไหนหรือนายคนไหน จะมีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งจับผิดพนักงาน หรอกครับ
...ถ้าจนกระทั่งฝ่ายบุคคลฯ ต้องเอ่ยปาก หรือนายเรียกมาตำหนิ...ก็ถึงคราวที่เราคงต้องทบทวนพฤติกรรมแบบไม่เข้าข้างตัวเองแล้วกระมัง?...
ขึ้นชื่อว่าสังคมแล้ว จำเป็นต้องมีกฎและระเบียบในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ทุกๆ คนต่างประพฤติและปฏิบัติตัวอยู่ในกรอบอันควร
บ้านก็มีกฎบ้าน, เมืองก็มีกฎเมือง และบริษัทก็มีกฎบริษัท...ซึ่งต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า กฎมีไว้ให้ปฏิบัติตาม ไม่ใช่มีไว้เพื่อละเมิด
แต่น่าเสียดายที่ผู้คนบางส่วน มักรู้สึกว่า การละเมิดกฎไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ และใครๆ ก็ทำกัน
...
มาสายนิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร, พักเที่ยงเลยไปหน่อย นายคงไม่ว่า, เข้าคิวหน้าเครื่องบันทึกเวลา ก็ไม่น่าเกลียด, นึกอยากจะหยุด ก็หยุดเลย เดี๋ยวลาป่วยเอา, ฯลฯ
เนื่องจากบางครั้งมันก็เป็นอะไรที่ไม่ได้เป็นการละเมิดกฎที่ใหญ่โต, บริษัทก็เลยไม่ค่อยถือสาหาความ...ก็เลยทำให้หลายๆ คนได้ใจ
จากการผิดกฎบางครั้ง...จึงนำไปสู่การผิดกฎบ่อยครั้ง และกลายเป็นเรื่องที่ "ใครๆ ก็ทำกัน" อย่างไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
เมื่อบ่อยครั้งเข้า จนฝ่ายบุคคลหรือนายต้องยกเอากฎมาพูดคุยและทำความเข้าใจกับ "ผู้ละเมิดกฎเป็นนิจ" ที่ว่า...ดราม่าจึงมีอันบังเกิด
...
เราจึงมักได้ยินประโยคประมาณว่า "ใครๆ ก็ทำกัน", "ผิดแค่นิดหน่อยเอง", "บริษัทเรื่องมาก", "ฝ่ายบุคคลงี่เง่า", "นายใจแคบ", ฯลฯ...อยู่บ่อยๆ
แต่เรากลับไม่ค่อยได้หันมาดูตัวเองว่า...อะไรคือเรื่องที่ควรทำ แล้วอะไรคือเรื่องไม่สมควรทำ
ผมว่าแท้ที่จริงแล้ว ไม่มีฝ่ายบุคคลคนไหนหรือนายคนไหน จะมีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งจับผิดพนักงาน หรอกครับ
...ถ้าจนกระทั่งฝ่ายบุคคลฯ ต้องเอ่ยปาก หรือนายเรียกมาตำหนิ...ก็ถึงคราวที่เราคงต้องทบทวนพฤติกรรมแบบไม่เข้าข้างตัวเองแล้วกระมัง?...
Comments
Post a Comment