Skip to main content

Post#4-060: ตลกเพราะไม่ตลก

Post#4-060:
หนึ่งในอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลของมุขคลาสิกที่คนที่อาศัยในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะคุ้นเคย ก็คือ "มุขควาย" ^^

อันว่านิยามของมุขควายนั้น ก็คือ มุขตลกที่ไม่ตลก...และเพราะว่ามันไม่ตลก มันก็เลยตลก...ไม่งงใช่มั๊ยครับ?

บางมุขปล่อยออกมาแล้ว กลายเป็นมุข "ฮากริบ" คือหลังจากปล่อยไปแล้ว จะมีความเงียบเข้ามาแทรกกลาง แบบ "สตั๊นท์" ไปชั่วครู่...หลังจากนั้น เสียงหัวเราะแบบเยาะหยันก็จะตามมา

...

บ่อยครั้งชีวิตเราก็เป็นเหมือนมุขควาย...คือ มันไม่ตลกเอาเสียเลย...

และเมื่อมันไม่ตลกจนถึงที่สุดแล้ว...เราคงอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะให้กับมัน

คงเพราะขืนมัวแต่เศร้าอยู่อย่างนั้น...ถามจริงๆ ครับ ว่ามันจะได้อะไรขึ้นมา...เราจะเศร้าจนได้รับ Oscar Award หรือไงเอ่ย?

ก็เหมือนกับมุขควายนั่นไงครับ...เมื่อใครปล่อยมุขควายออกมา...เราทำได้ทั้งกระแนะกระแหนจนใครคนนั้นไม่มีที่ยืน พร้อมๆ กับที่ตัวเราเองก็มีแต่ความไม่รื่นรมย์ไปด้วย

หรือเราอาจจะเลือกการล้อเลียนหรือเยาะเย้ยให้เรื่องไม่ตลกกลายเป็นตลกไปเสีย...ก็ทำได้อีกเหมือนกัน

...

ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า ชีวิตเริ่มเป็นเหมือนมุขควาย...เราจึงควรล้อเลียนและเย้ยหยันมัน...เปลี่ยนจากไม่ตลกให้กลายเป็นตลก

แม้ไม่อาจจะหัวเราะได้เต็มเสียง...ขอเพียงเรายิ้มให้กับมันให้ได้ แล้วเมื่อนั้นเราก็น่าจะมีแรงฮึดสู้อีกหน

หลังจากหัวเราะออกมาได้...ชีวิตของเราจึงมีหนทางไปต่อ...ก็เพราะแม้จะไม่ตลกเอาเสียเลย เราก็ยังหัวเราะให้กับมันได้นี่นา

เมื่อเรายอ้มหรือหัวเราะให้กับชีวิตได้...ก็ควรจะแปลว่า เรายังสู้ไหว, เรายังมีแรงไปต่อ และเรายังมีพรุ่งนี้ให้ลุกขึ้นสู้ใหม่...ใช่มั๊ยล่ะครับ?

...อยู่ที่เรียนรู้...อยู่ที่ยอมรับมัน...จริงๆ ครับ...

#ชีวิตไม่ตลกจนตลก #เศร้าแล้วยังไงจะยอมแพ้งั้นหรือ #คนเข้มแข็งคือคนที่ยิ้มได้แม้ว่ากำลังจมอยู่ในความทุกข์ #ยิ้มสู้ชีวิตเพราะชีวิตคือการต่อสู้



Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...