Skip to main content

Post#4-062: เสียดายจัง?

Post#4-062:
มื้อค่ำที่ผ่านมา...เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง นัดผมมาทานข้าวด้วย เนื่องจากไม่ได้เจอกันนานพอดู

ระหว่างทานข้าว...ไม่ได้คุยอะไรกันมากไปกว่าการสอบถามสารทุกข์สุกดิบกันและกัน...แล้วก็คุยกันเรื่องธุรกิจที่ต่างคนกำลังทำอยู่

เนื่องจากผมทำธุรกิจหลายอย่างหน่อย...ก็เลยมีเรื่อง update ให้เพื่อนฟังเยอะ...รวมถึงเรื่องธุรกิจบางอย่างที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย

...

ตอนหนึ่งของการสนทนา...เพื่อนผมถามว่า ไม่เสียดายเงินบ้างหรือ กับธุรกิจที่ล้มเหลวไป เพราะเม็ดเงินลงทุนก็มากโขอยู่

ผมยิ้ม...และตอบว่า จะไม่เสียดายเลยก็ไม่ใช่...เรียกว่า "ทำใจยอมรับได้" นั้น น่าจะเหมาะกว่า

เปล่าประโยชน์ที่จะมัวนั่งคร่ำครวญและเสียดายกับสิ่งที่พลาดไปแล้ว...แต่น่าจะเรียนรู้จากความล้มเหลว เพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างผิดพลาดน้อยลง

...

ความจริง ชีวิตคนเรา ก็คล้ายๆ กับกีฬาอยู่เหมือนกันครับ

คือ ถ้าลงแข่ง ก็มีโอกาสทั้งแพ้และชนะ...แต่ถ้าไม่ลงแข่ง ยังไงก็มีแต่แพ้

ถ้าอยากชนะ ก็ต้องหมั่นฝึกซ้อม ศึกษาทีม และต้องศึกษาคู่แข่งไปด้วยเช่นกัน

และเมื่อลงแข่ง...ก็ต้องเอาจริงเอาจัง สู้ให้เต็มที่...อย่าไปมัวกล้าๆ กลัวๆ หรือมัวแต่เล่นเกมรับ เพราะช้าหรือเร็วก็มีแต่จะเสียแต้ม แต่ไม่มีโอกาสทำแต้มเลย

...

สังเกตมั๊ยครับ...ถ้าลงแข่งทั้งๆ ที่กลัวแพ้ หรือเจ็บใจอยู่กับความผิดพลาด...เราก็มักจะแพ้

ถ้าเรามัวแต่เอาใจไปอยู่กับแต้มที่เสียไปแล้ว...ก็รังแต่จะแพ้ไปเรื่อย จากเสียแต้ม ก็เป็นเสียเซ็ต และจบด้วยการเสียเกม

เมื่อเสียแต้ม ต้องตัดใจ และรวบรวมกำลังใจ กลั่นกำลังความคิด และทุ่มกำลังกาย เพื่อไปทำแต้มคืนมาให้ได้...

...ต่อให้ต้องแพ้เกมนี้ แต่รับรองว่าใจนักสู้จะทำให้เรามีโอกาสเป็นผู้ชนะในเกมหน้าได้บ้างแน่ๆ ครับ...

#อย่ามัวหงุดหงิดกับแต้มที่เสียไป #จงมุ่งมั่นจะทำแต้มคืนมา #ตัดใจจากอดีตแล้วจงตั้งใจกับปัจจุบันเพื่อผลลัพธ์ในอนาคต

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...