Post#4-074:
ว่ากันตามจริงแล้ว...เราต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าการ "ทำได้" กับ "ได้ทำ" นั้น ฟังดูคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์นั้นต่างกันมหาศาลนัก
สมัยที่เรายังเด็กๆ...หลังจากสอบเสร็จ ถ้าแม่ถามว่า "สอบเป็นยังไงลูก"...แล้วเราตอบว่า "ทำได้ครับแม่" กับ "ได้ทำครับแม่"
เราคิดว่า แม่จะมีปฏิกิริยากับคำตอบทั้งสองแบบของเรายังไงบ้าง?
...
ผมคิดว่า แม่คงจะไม่ว่าอะไร ถ้า เรา "ทำได้ไม่ดี" แต่แม่คงจะเสียใจที่เรา "ทำดีไม่ได้"
การที่เรา "ทำได้ไม่ดี"...ก็คงพอตีความได้ว่า เราตั้งใจทำแล้ว แต่ที่ผลลัพธ์อาจจะยังไม่ดีนั้น อาจขึ้นได้จากหลายเหตุ-ปัจจัย
และไม่ว่าจะเกิดจากเหตุ-ปัจจัยใด...ครั้งหน้า เราอาจมีโอกาสจะทำให้ผลลัพธ์นั้น ดีขึ้นได้
แต่การที่เรา "ทำดีไม่ได้"...ก็คงตีความเป็นอื่นไปไม่ได้ว่า เราแค่ทำให้มันผ่านๆ ไป หรือจบๆ ไป โดยไม่แยแสว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน?
ซึ่งตราบใดที่เรายังไม่เปลี่ยนทัศนคตินั้น...ก็มีอันแน่ใจได้ว่า คงไม่มีวันที่เราจะทำอะไรได้ดี
สรุปง่ายๆ ว่า ทั้งสองแบบ ต่างกันสุดขั้วตรงที่ "ทัศนคติ" และ "ความตั้งใจ" ที่จะลงมือทำ
...
แล้วเวลาทำงาน...เราเป็นแบบไหนกันนะ?
เราทำงานทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้วใช่มั๊ยหนอ? หรือแค่ทำงานชุ่ยๆ พอให้มันพ้นไปวันๆ เท่านั้น?
ถ้าเราทำงานอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ แม้ผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีงามอย่างที่เจ้านายต้องการ...แต่ผมเชื่อว่า เราจะยังได้รับโอกาสที่สองจากเจ้านาย ให้เราได้ปรับปรุงและพัฒนาผลลัพธ์ให้ดีขึ้น
แต่หากเราทำงานแค่ให้พ้นๆ ผ่านๆ...ก็คงจะยากสักหน่อย ที่ผลลัพธ์ของงานจะออกมาดี...แล้วเมื่อเจ้านายเลือกจะไม่ให้ความไว้วางใจเราต่อ...ผมก็นึกไม่ออกว่า เรายังสมควรจะได้รับโอกาสที่สองจากเจ้านายมั๊ยนะ?
...
บางครั้ง "โอกาสที่สอง" ก็เป็นเรื่องเฉพาะของคนที่สมควรได้รับเท่านั้น
มันคงน่าเจ็บใจและน่าเสียดาย...หากว่าเรามีโอกาสในมือแล้ว แต่กลับไม่ได้ใส่ใจที่จะทำมันให้เต็มที่
ดังนั้น...อย่ารอจนเราต้องร้องขอโอกาสที่สอง เพราะนั่นอาจกลายเป็นเรื่องที่ "สายเกินไป"
...และต้องจำไว้เตือนตนว่า คนที่สมควรได้รับ "โอกาสที่สอง" ที่ว่า ก็ควรจะเป็นคนที่ยัง "ทำได้ไม่ดี" แต่ไม่ใช่คนที่ "ทำดีไม่ได้"...
#มีโอกาสต้องทำให้เต็มที่ #ทำวันนี้ให้ดีที่สุดยังคงจริงเสมอ #อย่ารอโอกาสที่สองเพราะเราอาจไม่มี #ทำเต็มที่แล้วไม่ได้ต่างจากทำไม่ได้อย่างเต็มที่
ว่ากันตามจริงแล้ว...เราต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าการ "ทำได้" กับ "ได้ทำ" นั้น ฟังดูคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์นั้นต่างกันมหาศาลนัก
สมัยที่เรายังเด็กๆ...หลังจากสอบเสร็จ ถ้าแม่ถามว่า "สอบเป็นยังไงลูก"...แล้วเราตอบว่า "ทำได้ครับแม่" กับ "ได้ทำครับแม่"
เราคิดว่า แม่จะมีปฏิกิริยากับคำตอบทั้งสองแบบของเรายังไงบ้าง?
...
ผมคิดว่า แม่คงจะไม่ว่าอะไร ถ้า เรา "ทำได้ไม่ดี" แต่แม่คงจะเสียใจที่เรา "ทำดีไม่ได้"
การที่เรา "ทำได้ไม่ดี"...ก็คงพอตีความได้ว่า เราตั้งใจทำแล้ว แต่ที่ผลลัพธ์อาจจะยังไม่ดีนั้น อาจขึ้นได้จากหลายเหตุ-ปัจจัย
และไม่ว่าจะเกิดจากเหตุ-ปัจจัยใด...ครั้งหน้า เราอาจมีโอกาสจะทำให้ผลลัพธ์นั้น ดีขึ้นได้
แต่การที่เรา "ทำดีไม่ได้"...ก็คงตีความเป็นอื่นไปไม่ได้ว่า เราแค่ทำให้มันผ่านๆ ไป หรือจบๆ ไป โดยไม่แยแสว่า ผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน?
ซึ่งตราบใดที่เรายังไม่เปลี่ยนทัศนคตินั้น...ก็มีอันแน่ใจได้ว่า คงไม่มีวันที่เราจะทำอะไรได้ดี
สรุปง่ายๆ ว่า ทั้งสองแบบ ต่างกันสุดขั้วตรงที่ "ทัศนคติ" และ "ความตั้งใจ" ที่จะลงมือทำ
...
แล้วเวลาทำงาน...เราเป็นแบบไหนกันนะ?
เราทำงานทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้วใช่มั๊ยหนอ? หรือแค่ทำงานชุ่ยๆ พอให้มันพ้นไปวันๆ เท่านั้น?
ถ้าเราทำงานอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ แม้ผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีงามอย่างที่เจ้านายต้องการ...แต่ผมเชื่อว่า เราจะยังได้รับโอกาสที่สองจากเจ้านาย ให้เราได้ปรับปรุงและพัฒนาผลลัพธ์ให้ดีขึ้น
แต่หากเราทำงานแค่ให้พ้นๆ ผ่านๆ...ก็คงจะยากสักหน่อย ที่ผลลัพธ์ของงานจะออกมาดี...แล้วเมื่อเจ้านายเลือกจะไม่ให้ความไว้วางใจเราต่อ...ผมก็นึกไม่ออกว่า เรายังสมควรจะได้รับโอกาสที่สองจากเจ้านายมั๊ยนะ?
...
บางครั้ง "โอกาสที่สอง" ก็เป็นเรื่องเฉพาะของคนที่สมควรได้รับเท่านั้น
มันคงน่าเจ็บใจและน่าเสียดาย...หากว่าเรามีโอกาสในมือแล้ว แต่กลับไม่ได้ใส่ใจที่จะทำมันให้เต็มที่
ดังนั้น...อย่ารอจนเราต้องร้องขอโอกาสที่สอง เพราะนั่นอาจกลายเป็นเรื่องที่ "สายเกินไป"
...และต้องจำไว้เตือนตนว่า คนที่สมควรได้รับ "โอกาสที่สอง" ที่ว่า ก็ควรจะเป็นคนที่ยัง "ทำได้ไม่ดี" แต่ไม่ใช่คนที่ "ทำดีไม่ได้"...
#มีโอกาสต้องทำให้เต็มที่ #ทำวันนี้ให้ดีที่สุดยังคงจริงเสมอ #อย่ารอโอกาสที่สองเพราะเราอาจไม่มี #ทำเต็มที่แล้วไม่ได้ต่างจากทำไม่ได้อย่างเต็มที่
Comments
Post a Comment