Post#2-102:
เมื่อครู่ใหญ่ๆ ที่ผ่านมา ผมนั่งคุยอยู่กับเพื่อนเก่าที่เคยทำงานด้วยกันมาเมื่อกว่า 10 ปีก่อน และเธอพึ่งจะมาเริ่มทำกิจการของตัวเองเมื่อไม่นานมานี้เอง
หลักใหญ่ใจความของการคุยกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับว่า เธอจะขยายธุรกิจยังไงดี?
โดยมากแล้ว คนที่เป็น Entrepreneur เป็นพวกนักรบที่ชอบบุกไปข้างหน้า เรียกว่า เป็นพวก "เดินหน้าท้าตะลุย" แต่มักจะไม่ค่อยดูหลังบ้านว่าตามทันรึเปล่า
เท่าที่ผมทำงานมา ไม่ว่าจะเป็นกิจการขนาดปีละไม่กี่ล้านบาท ไปจนกระทั่งกิจการขนาดปีละหลายแสนล้าน ถ้าเจ้าของกิจการเป็นผู้บริหารซะเอง ผมก็พบว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่อง classic อยู่ดี
แต่เมื่อกิจการขยายไปไกลกว่ากำลังของคนๆ เดียวจะดูแลไหว เมื่อนั้น Entrepreneur จึงมักมองหา Professional หรือนักบริหารมืออาชีพเข้ามาช่วย
ช่วยอะไร?
ก็ช่วยให้หลังบ้านเดินตามหน้าบ้านทัน ช่วยให้ความไม่เข้าใจกันของทีมงานภายในลดน้อยลง เริ่มคุยภาษาเดียวกัน และมีทิศทางที่ชัดเจน
...
คนที่มีกิจการครอบครัวให้ไปสืบทอด จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปฝึกวิชาให้กล้าแกร่งก่อนที่จะกลับไปเป็นใหญ่
หลายๆ กิจการที่รุ่นพ่อทำไว้ดี มาถึงรุ่นลูกต้องพังพาบ เป็นเพราะส่วนใหญ่ขาดการวางแผนสืบทอดและการวางระบบที่ชัด
ลูกที่เกิดมาตอนพ่อแม่ร่ำรวยแล้ว ไม่เคยลำบากจากระดับล่าง ไม่ได้ซึมซับความเหนื่อยยากของพ่อแม่ ไม่ได้มีจิตวิญญาณของกิจการ จึงมิอาจสืบทอดความสำเร็จใดๆ ได้
ฉะนั้น ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการยุคใหม่ๆ จึงต้องหาส่วนผสมที่ลงตัวกันระหว่าง Entrepreneur และ Professional ให้เหมาะกับประเภทของธุรกิจ
บางเรื่องต้องหาญกล้าอย่างเจ้าของกิจการ แต่บางเรื่องต้องวางระบบอย่างมืออาชีพ ไม่ใช่กล้าอย่างเดียว และไม่ใช่ต้องมีระบบทุกเรื่องทุกอย่าง
ธุรกิจจะโตเร็วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์แห่ง Entrepreneur ส่วนธุรกิจจะยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ระบบแห่ง Professional ครับ
Comments
Post a Comment