Skip to main content

Post#2-110: วันหยุดยาวๆ

Post#2-110:
ช่วงนี้หันหน้าไปทางไหนก็ไม่มีใครอยากจะทำงาน

ทั้งอารมณ์ ทั้งแรง ดูเหมือนจะโดนความเย้ายวนใจของวันหยุดยาวๆ ดูดไปจนหมดสิ้น

ว่ากันตามจริง ก็คงไม่มีใครเกลียดวันหยุดยาวๆ อยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีบ่อยๆ ยิ่งโดยเฉพาะ "มนุษย์เงินเดือน" จะชอบมาก แต่ถ้าเป็น "คนค้าขาย" จะแอบเซ็ง เพราะรายได้หดหายไปถนัดตา

บางคนลางานตั้งแต่บ่ายวันนี้ ต่อด้วยวันจันทร์และอังคาร ก็เท่ากับว่ามีวันหยุดต่อเนื่องถึง 9 วันเต็มๆ ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยจะ happy ถ้าลูกน้องคนไหนจะหายหน้าไปนานๆ

แต่มาเดี๋ยวนี้ ผมสนับสนุนให้ลูกน้องหยุดยาวๆ ต่อเนื่องได้เลย ถ้า...

หนึ่ง...งานที่อยู่ในความรับผิดชอบเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรค้างคาและตั้งใจจะหมกข้ามปี ที่สำคัญควรต้องมอบหมายงานต่อให้เรียบร้อย ใครทำอะไร ตรงไหนแทน จะได้ตามได้ถูก

สอง...สัญญาว่าจะติดต่อได้ตลอด เผื่อเหลือเผื่อขาด หาอะไรไม่เจอ หรืออาจจะต้องถามข้อมูลบ้างบางเรื่อง ไม่ใช่หายไปแบบต้องติดต่อผ่านนกพิราบสื่อสาร

อย่ากังวลครับ ไม่มีใครโรคจิตขนาดจะโทรจิกจนไม่ได้พักแน่ๆ ถ้าทำข้อหนึ่งไว้เรียบร้อย

สาม...ไม่ได้หายไปทีเดียวพร้อมกันแบบปิดแผนก เพราะงานคนอื่นจะสะดุด จนทำงานต่อไม่ได้ ซึ่งก็เข้าใจว่าอยากไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็น่าจะห่วงงานกันบ้าง

อย่างน้อยเหลือไว้แผนกละคนก็ยังดี และควรฝากฝังงานกันไว้ให้เรียบร้อย

สี่...สัญญาต้องเป็นสัญญา ไม่ใช่ลาแล้วติดลมบน อ้างนั่น นู่น นี่ สารพัด ทั้งอุบัติเหตุบ้างล่ะ, หาตั๋วไม่ได้บ้างล่ะ, แม่ไม่ให้กลับบ้างล่ะ, ฯลฯ

บางคนที่หมดสิทธิ์ลาพักร้อนไปแล้ว ก็ทิ้งงานไปดื้อๆ ก็มี โดยบอกว่าให้หักเงินเดือนได้เลย (หรือที่เรียกกันติดปากว่า Leave without Pay) ซึ่งต้องบอกว่าการลาแบบนี้ ต้องขอลาล่วงหน้า เป็นการแจ้งนายเพื่อขออนุญาต ไม่ใช่แจ้งเพื่อทราบนะ -"-

ใครที่กำลังวางแผนจะหยุดยาวๆ ก็ลองทบทวนดูนะครับ อย่ามัวมุ่งแต่สนุกจนลืมความรับผิดชอบนะครับ คิดซะว่าไม่เห็นแก่นาย ไม่แคร์บริษัทฯ ก็ควรจะเห็นแก่เพื่อนร่วมงานที่อาจจะเดือดร้อนเพราะเราหายไปนานๆ โดยไม่ได้จัดการทุกอย่างไว้ดีพอ

ขอให้มีความสุขกับวันหยุดยาวๆ ที่กำลังจะมาถึงครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...