Post#2-105:
หลายวันก่อน ผมนั่งเล่นเกมกับลูกสาวอยู่เป็นนานสองนาน
ลูกสาวผมจะหน้าง้ำทุกครั้งที่ผมดักทางเธอถูก ประมาณว่าอีกนิดเดียวก็ชนะแล้ว ทำไมพ่อดักทางถูกทุกที
ผมก็เล่นไปสอนไปล่ะครับ โดยเฉพาะถ้าเห็นว่าเป็นการเล่นแบบมั่วๆ ผมจะถามลูกทุกครั้งว่า ทำไมเลือกเล่นแบบนี้ ทำไมไม่เล่นแบบนั้น
การถามแบบนี้ เป็นการทำให้สมาธิเค้าอยู่กับเกม คิดก่อนเล่น มีเป้าหมายก่อนลงมือ และพอเล่นไปซักพัก จากที่ผมต้องอ่อนข้อให้ กลับกลายเป็นต้องจริงจังมากขึ้น เพราะบางเกมผมก็เล่นแพ้เด็กอายุ 7 ขวบ O_o
พูดแบบนี้ หลายคนอาจจะนึกว่า ผมมาอวดความเก่งของลูก แต่จริงๆ แล้วตีความได้ 2 มุม คือลูกสาวผมหัวไวเล่นเก่งมาก หรือไม่ก็ผมฝีมือห่วยมาก เล่นแพ้กระทั่งเด็ก 7 ขวบ (อิอิ ภาวนาให้เป็นมุมแรกก็แล้วกันครับ)
ช่วงที่เล่นกันสูสี กว่าจะเล่นแต่ละครั้ง ลูกผมจะใช้เวลาคิดนานมาก ลังเลอยู่เป็นนาน พอผมเร่ง เธอก็จะบอกว่า "หนูกลัว"
ผมตามต่อว่า "กลัวอะไร" เธอตอบว่า "กลัวแพ้" แล้วเกมนั้นเธอก็แพ้จริงๆ ผิดกับบางเกมที่เธอเล่นด้วยความสนุก ผลลัพธ์มักออกมาดี ไม่ชนะก็จะแพ้แบบเฉียดฉิว
...
ในชีวิตจริงเราก็เจอเหตุการณ์แบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งกดดันตัวเองเกินความจำเป็น จนทำอะไรที่ไม่ควรพลาด พลาดอย่างไม่น่าเชื่อ
การใส่ความกดดันพอเหมาะน่ะดีครับ แต่พอมากเกินไปก็จะส่งผลลบต่อตัวเราเอง...
เวลาทำอะไรก็ตามไม่ว่าเล่นเกมหรือทำงาน เมื่อตั้งเป้าหมายและแผนการแล้ว ควรเอาสมาธิไปจับอยู่ที่เกมหรือขั้นตอนการทำงาน ไม่ใช่ไปจดจ่ออยู่ที่ผลแพ้ชนะหรือผลงาน
เมื่อใจจดจ่อถูกที่ สมองและพลังงานของเราจึงถูกใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม แต่ถ้ามัวเอาใจไปจับที่ปลายทาง สมาธิก็กระจัดกระจายอย่างช่วยไม่ได้
สนุกไปกับเกมและการทำงานกันดีกว่าครับ ^^
Comments
Post a Comment