Skip to main content

Post#2-88: รายทางระหว่างทริป#9

Post#2-88:
วันนี้เป็นวันที่ผมออกสำรวจตลาดแหล่งช้อปปิ้งทั้งหลายในละแวกนี้

ยิ่งใกล้ช่วงคริสต์มาส บรรดาร้านรวงทั้งหลายต่างก็แข่งขันกันดึงเงินจากกระเป๋าลูกค้า ทั้งลด แลก แจก แถม กันกระหน่ำ เรียกว่า ใจแข็งยังไงก็อดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ

เรียกว่า ถ้าลงได้เดินเข้าไปในที่ช้อปปิ้งใดๆ แล้วล่ะก็ ยากนักที่จะกลับออกมามือเปล่า ยิ่งถ้าไปเดินใน Costco หรือ Marshall (ซึ่งเป็นห้างฯ ที่โดดเด่นในด้านราคา) นี่ รับรองว่ารอดยากจริงๆ ครับ

คนที่นี่ ตัดสินใจซื้อสินค้าไม่ยากนัก เพราะพวกเค้าได้รับการดูแลจากกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ลูกค้าจึงมีอำนาจในมือค่อนข้างมหาศาล ตราบเท่าที่ยังไม่ตัด tag ราคาออก ยังไงก็คืนได้ (หรือบางทีตัด tag ราคาแล้ว ก็ยังคืนได้เหมือนกัน)

และหนึ่งในเหตุผล classic ที่ลูกค้านำมาใช้เมื่อต้องการคืนสินค้าก็คือ "The quality is not up to my expectation." แปลว่า "คุณภาพของเธอไม่ถึงระดับที่ชั้นพอใจ" - ครับ ก็ง่ายๆ แบบนั้นเลย O_o"

อีกเหตุผลที่เท่ไม่แพ้กันก็คือ "I've changed my mind!" แปลว่า "ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว เอาของเธอคืนไป" - ชิ เหตุผลแบบนี้ก็มีด้วย

เงื่อนไขของการคืนสินค้านี้ นับรวมไปถึงการซื้อทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

จากที่น้องสาวขับรถพาผมตระเวนดูและจับจ่ายซื้อของจากหลายๆ ที่ ผมพบว่า การช้อปปิ้งสินค้าทั่วๆ ไป (ที่ไม่ใช่ Fashion Brand Name) ที่นี่ อยู่ในข่ายยอดเยี่ยมเหนือกว่าอังกฤษและอีกหลายๆ ประเทศในแถบยุโรป

แต่ที่เหนือขั้นไปกว่านั้น ก็คือการช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ที่เป็นประสบการณ์ที่เหนือล้ำกว่าบ้านเราเป็นอย่างมาก

คนที่นี่ซื้อสินค้าออนไลน์กันเป็นเรื่องปกติ เพราะสั่งซื้อง่าย จ่ายเงินสะดวก รอรับสินค้าไม่นาน ต่อให้ไม่ได้เห็นสินค้าก่อน ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับลูกค้า...ก็ด้วยกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่ผมว่านั่นไงครับ ^^

เรื่องราวรายทางระหว่างทริปของผมก็คงจบลงที่ post นี้ ล่ะครับ

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...