Post#2-104:
สมัยที่เรายังเป็นละอ่อนน้อย ไม่เดียงสาเรื่องความรัก เราก็มักจะเป็นจะตายทุกครั้งเมื่อโดนพิษของความรักเล่นงาน
ว่ากันตามจริงใครที่มีรักแรกแล้วสมหวังกับความรักเลย คงมีน้อยกว่าน้อย นั่นหมายความว่า ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็เคยลิ้มรสความเจ็บปวดที่เรียกว่า "อกหัก" กันมาแล้วทั้งนั้น
เมื่อผ่านช่วงอกหักมาได้ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเติบโตขึ้น รู้จักความรักมากขึ้น รู้จักเผื่อใจและรู้จักปล่อยวางมากขึ้น ส่วนคนที่ทำใจไม่ได้ มีบ้างที่เลือกจบชีวิตตัวเอง มีบ้างที่ไม่ได้เรียนรู้จากความรักครั้งก่อน และลงท้ายที่ความอกหักซ้ำซาก
แต่ถึงอย่างไร "ความรัก" ก็ยังเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้คนเราต่อสู้ เพราะเมื่อเรามีใครสักคนให้รักและปกป้อง เราจะมีพลังพิเศษที่จะต่อสู้ได้อย่างไม่รู้ถอย
ความรักยังเป็นกิเลสที่ตัดได้ยากที่สุด ซึ่งแม้ผู้มีศีลระดับที่สูงกว่าปุถุชนธรรมดา จะตัดโลภ โกรธ หลง ไปได้แล้ว ก็ยังยอมรับว่าตัดผัสสะแห่งความรักนี้ได้ยากยิ่ง
...
ในช่วงที่เรามี Puppy Love เรามักมีความรักที่ควบรวมเอาความโลภ โกรธ หลง เข้าไปด้วยอย่างแยกไม่ออก เมื่อผิดหวังในความรัก ผลลัพธ์จึงกลับมาทำร้ายตัวเองและคนที่เราบอกว่ารัก...เมื่อพิจารณาให้ถ่องแท้ จึงพบว่า แท้ที่จริงน่ะรักตัวเองมากกว่า
เด็กน้อยและหนุ่มสาวมักจะแยกไม่ออกระหว่างรักคนอื่นกับรักตัวเอง อยากได้ความรัก พอเค้าไม่รักตอบ ก็แปลงจากรักเป็นแค้น แค้นเพราะความโลภที่อยากจะครอบครองเค้าไว้ พอเค้าไม่รักตอบก็โกรธ และเมื่อโกรธจึงโดนความหลงครอบงำสติ ทำอะไรเลวร้ายกับตัวเองและคนที่บอกว่ารักได้อย่างไม่น่าเชื่อ...จริงๆ แล้วรักตัวเองมากกว่า เพราะรักแบบต้องการจะบงการและครอบครอง
ผมเองก็ผ่านช่วงแบบนี้เหมือนส่วนใหญ่ของเด็กน้อยและหนุ่มสาวผู้ไม่เดียงสาเรื่องความรัก แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม
...
ส่วนตัว ผมเชื่อว่า ระหว่างความรักที่เพ้อฝันกับความรักที่จับต้องได้ แท้จริงแล้ว ห่างกันเพียงแค่มุมมองและวิธีปฏิบัติต่อคนที่เรารัก
ลองมาดูวาทะนี้กันครับ
"I don't want someone who promises me the moon and stars. I want someone who promises to lay on the grass and watch them with me."
แปลว่า "ชั้นไม่ได้ต้องการให้ใครสัญญาว่าจะเก็บเดือนและดาวบนฟ้ามาให้ ชั้นเพียงหวังให้ใครคนนั้นสัญญาว่าจะนอนเคียงกันบนผืนหญ้า และเฝ้ามองเดือนและดาว อยู่กับชั้น"
ถ้าสัมผัสความรักแบบนี้ได้ด้วยใจ...ยินดีด้วยครับ...คุณเริ่มเข้าใจแล้วว่า "รักที่จับต้องได้" เป็นฉันใด
ทุกๆ วันเป็นวันแห่งความรักได้ครับ...ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
สมัยที่เรายังเป็นละอ่อนน้อย ไม่เดียงสาเรื่องความรัก เราก็มักจะเป็นจะตายทุกครั้งเมื่อโดนพิษของความรักเล่นงาน
ว่ากันตามจริงใครที่มีรักแรกแล้วสมหวังกับความรักเลย คงมีน้อยกว่าน้อย นั่นหมายความว่า ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็เคยลิ้มรสความเจ็บปวดที่เรียกว่า "อกหัก" กันมาแล้วทั้งนั้น
เมื่อผ่านช่วงอกหักมาได้ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเติบโตขึ้น รู้จักความรักมากขึ้น รู้จักเผื่อใจและรู้จักปล่อยวางมากขึ้น ส่วนคนที่ทำใจไม่ได้ มีบ้างที่เลือกจบชีวิตตัวเอง มีบ้างที่ไม่ได้เรียนรู้จากความรักครั้งก่อน และลงท้ายที่ความอกหักซ้ำซาก
แต่ถึงอย่างไร "ความรัก" ก็ยังเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้คนเราต่อสู้ เพราะเมื่อเรามีใครสักคนให้รักและปกป้อง เราจะมีพลังพิเศษที่จะต่อสู้ได้อย่างไม่รู้ถอย
ความรักยังเป็นกิเลสที่ตัดได้ยากที่สุด ซึ่งแม้ผู้มีศีลระดับที่สูงกว่าปุถุชนธรรมดา จะตัดโลภ โกรธ หลง ไปได้แล้ว ก็ยังยอมรับว่าตัดผัสสะแห่งความรักนี้ได้ยากยิ่ง
...
ในช่วงที่เรามี Puppy Love เรามักมีความรักที่ควบรวมเอาความโลภ โกรธ หลง เข้าไปด้วยอย่างแยกไม่ออก เมื่อผิดหวังในความรัก ผลลัพธ์จึงกลับมาทำร้ายตัวเองและคนที่เราบอกว่ารัก...เมื่อพิจารณาให้ถ่องแท้ จึงพบว่า แท้ที่จริงน่ะรักตัวเองมากกว่า
เด็กน้อยและหนุ่มสาวมักจะแยกไม่ออกระหว่างรักคนอื่นกับรักตัวเอง อยากได้ความรัก พอเค้าไม่รักตอบ ก็แปลงจากรักเป็นแค้น แค้นเพราะความโลภที่อยากจะครอบครองเค้าไว้ พอเค้าไม่รักตอบก็โกรธ และเมื่อโกรธจึงโดนความหลงครอบงำสติ ทำอะไรเลวร้ายกับตัวเองและคนที่บอกว่ารักได้อย่างไม่น่าเชื่อ...จริงๆ แล้วรักตัวเองมากกว่า เพราะรักแบบต้องการจะบงการและครอบครอง
ผมเองก็ผ่านช่วงแบบนี้เหมือนส่วนใหญ่ของเด็กน้อยและหนุ่มสาวผู้ไม่เดียงสาเรื่องความรัก แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม
...
ส่วนตัว ผมเชื่อว่า ระหว่างความรักที่เพ้อฝันกับความรักที่จับต้องได้ แท้จริงแล้ว ห่างกันเพียงแค่มุมมองและวิธีปฏิบัติต่อคนที่เรารัก
ลองมาดูวาทะนี้กันครับ
"I don't want someone who promises me the moon and stars. I want someone who promises to lay on the grass and watch them with me."
แปลว่า "ชั้นไม่ได้ต้องการให้ใครสัญญาว่าจะเก็บเดือนและดาวบนฟ้ามาให้ ชั้นเพียงหวังให้ใครคนนั้นสัญญาว่าจะนอนเคียงกันบนผืนหญ้า และเฝ้ามองเดือนและดาว อยู่กับชั้น"
ถ้าสัมผัสความรักแบบนี้ได้ด้วยใจ...ยินดีด้วยครับ...คุณเริ่มเข้าใจแล้วว่า "รักที่จับต้องได้" เป็นฉันใด
ทุกๆ วันเป็นวันแห่งความรักได้ครับ...ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
Comments
Post a Comment