Skip to main content

Post#2-249: ทำยังไงดีถ้าไม่ได้เจอนายบ่อยๆ?

Post#2-249:
ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมเผชิญกับพายุงานที่กระหน่ำซัดอย่างไม่ปราณี

ค่าที่ผม "ซน" เพราะมีหลายธุรกิจ จึงต้องจัดการหลายๆ บริษัทฯ ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด

ความจริงผมก็ออกจะเห็นใจทีมงานไม่น้อย ที่แต่ละสัปดาห์มีเวลาเจอหน้าผมไม่นาน เพราะผมต้องแบ่งเวลาให้กับทีมอื่นๆ ด้วย

ในแง่ของคนที่ไม่ค่อยทำงาน มักจะมีความสุขที่นายไม่ค่อยมา office ส่วนคนที่เค้าอยากให้งานเดินหน้าเร็วๆ น่ะ มักจะจิกให้นายให้โผล่หน้ามาวันละหลายรอบ

โชคดีที่ส่วนใหญ่ของทีมงานของผมเป็นพวกหลัง (ต่อหน้าเป็นแบบนี้นะครับ...แต่ลับหลังไม่รู้ อิอิ)

...

เมื่อเวลาที่จะต้องเจอกันมีน้อย สิ่งที่ทั้งนายและลูกน้องจะต้องสร้างร่วมกันก็คือ "วินัย"

ถามว่า "วินัย" ในเรื่องอะไรหรือครับ, ผมตอบได้เลยว่า

หนึ่ง...วินัยที่จะต้องรักษาคำพูดที่มีให้กัน งานที่นายสั่งงานไว้ ต้องปิดได้ตามเวลา ส่วนงานที่ลูกน้องต้องการคำตอบ นายก็ต้องตอบตามเวลาเช่นกัน

สอง...วินัยที่จะต้องสื่อสารกันด้วยสารพัดช่องทางที่มี ทั้งโทรศัพท์, Line และ email หรือช่องทางอื่นๆ และที่สำคัญอย่าเข้าใจไปเอง สงสัยหรือไม่เข้าใจก็ต้องยกหูคุยเลย

สาม...วินัยที่จะต้องทำงานเชิงรุก ถ้าข้อหนึ่งและข้อสองหย่อนยาน ฝ่ายที่รู้สึกว่างานตัวเองไม่คืบหน้าก็อย่าเป็นฝ่ายตั้งรับ ลูกน้องช้าก็ต้องกระตุ้น ถ้านายช้าก็ต้องกล้าจิก

ถ้าทำ 3 เรื่องนี้ได้ เจอกันไม่บ่อยก็ไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่ความรวดเร็วในการปรึกษากัน หรือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มันคงเทียบไม่ได้กับการเจอหน้ากันทุกวันเท่านั้น

...

ใครมีนายที่ยุ่งทั้งวันอย่างที่ผมเป็น ก็ลองดูนะครับ เผื่อว่าการทำงานที่ตัวไกลกัน จะมีอะไรโยงใยให้ใกล้กันได้มากขึ้นบ้าง

ผมขอถือโอกาสนี้ ขอโทษทีมงานที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ พร้อมกับขอขอบคุณทีมงานที่ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีด้วยครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...