Skip to main content

Post#2-258: "คุ้นเคย" แต่อย่า "เคยชิน"

Post#2-258:
เช้าวันนี้ผมเชิญเพื่อนมาช่วยทำงาน (เข้าใจความหมายของคำว่า "เชิญ" ตรงกันนะครับ อิอิ)

เพื่อนผมเป็นเทพจุติแห่ง Excel แต่พอมาใช้ Macbook เธอก็ออกอาการไปไม่เป็นเอาเลยทีเดียว

เรียกว่ากว่าจะตั้งสูตรได้แต่ละช่อง เธอก็จะวีนเล็กๆ กับความไม่คุ้นชินกับตำแหน่งของปุ่มและ function ที่ไม่เหมือน laptop เลยแม้แต่น้อย จนเธอออกปากว่า อยากจะเหวี่ยงเครื่องทิ้งเอาเลยทีเดียว T_T

จะว่าไปผมเองก็เป็นแบบนี้เวลาหันไปใช้ laptop อื่น หรือแม้กระทั่งเครื่องคิดเลขอื่น และยิ่งนึกต่อไปก็รวมไปถึงขับรถคนอื่น, ใช้มือถือชาวบ้าน และ ฯลฯ

รวมความแล้ว ผมขอเรียกรวมๆ ว่า มันเป็นปรากฏการณ์ของ "พื้นที่คุ้นชิน" หรือ Comfort Zone ที่ผมชวนคุยไว้หลายต่อหลายครั้งนั่นเองครับ

...

ผมไม่อาจเถียงความจริงที่ว่า การใช้ของที่เคยๆ มือนั้น มันสะดวกกับเราเอาซะจริงๆ แต่ก็ต้องบอกว่า ที่โลกเราก้าวมาถึงวันนี้ ก็เป็นเพราะมนุษย์นั้นไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนมีนั่นเอง

ก่อนมี Macbook ผมก็เห็นว่า laptop ก็ใช้ได้ดี แต่เมื่อหันมาใช้ Macbook ผมก็ไม่เคยกลับไปใช้ laptop อื่นอีก ซึ่งแปลว่า ถ้าผมไม่ยอมทดลองใช้ Macbook ตั้งแต่วันนั้น ป่านนี้ผมก็ยังคงไม่ได้มีโอกาสใช้ product ดีๆ แบบนี้ (ขออภัยครับ...ผมเป็นติ่ง Apple)

แน่นอนว่า เมื่อมี product หรือ gadget ใหม่ๆ ผมจึงไม่ค่อยพลาดโอกาสในการทดลองเล่น, ใช้ หรืออย่างน้อยก็ขออ่าน review ก็ยังดี

...

แม้กระทั่งการทานอาหารจานเดิมๆ หรือร้านเดิมๆ ก็เป็นสิ่งแสดงถึงความยึดติดใน Comfort Zone อยู่เหมือนกันนะครับ...ผมเองก็เป็น

หากแต่ ถ้าไม่ใช่อาหารพิสดารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบแปลกๆ หรือร้านที่ต้องแต่งตัวไฮโซฯ ไปทานแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่ขัดข้องที่จะทดลอง

ผมไม่ได้ anti อะไรกับ Comfort Zone หรอกนะครับ เพียงแต่แค่อยากกระซิบว่า บางครั้งการแวะออกมาจาก Comfort Zone เดิมบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรือหนักหนาเกินกว่าจะทดลองดู

ถ้าลองออกมาแล้ว เกิดไม่ชอบใจ ก็แค่กลับเข้าไปใหม่ หรือถ้าปรับตัวเข้ากับ Zone ใหม่ได้ก็เป็นเรื่องน่ายินดี...และรอเวลาให้ Zone ใหม่กลายเป็น Comfort Zone ของเราอีกครา

สรุปว่า เราอาจปล่อยให้ตัวเรา "คุ้นเคย" ได้ แต่อย่าปล่อยให้ "เคยชิน" ครับ

อ้อ...เรื่อง Comfort Zone นี่ คงต้องห้ามอย่างเด็ดขาดกับเรื่องแฟนหรือภรรยานะครับ เพราะถ้าจะลองออกจาก Comfort Zone ก็อาจได้เข้า Dead Zone ไปในทันที (>_<"

สุขสันต์วันเสาร์ครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...