Post#2-273:
เมื่อวานผมมี Dinner Meeting เพื่อจะนำเสนอ project ให้กับ landlord รายหนึ่ง
ก่อนหน้าจะมาประชุมผมก็มอบหมายให้ partner เตรียมข้อมูลและ mock-up สินค้า นัดแนะกันดิบดี ผมก็วางใจ รอวันประชุมอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเป็น project ที่ผมให้ความสำคัญค่อนข้างมาก
ปรากฏว่า ผมจำเวลานัดผิด ทั้งผมและ partner เลยไปถึงก่อนเวลานัดตั้งชั่วโมง ซึ่งก็ดีตรงที่เราจะมีเวลาทบทวนข้อมูลก่อนประชุม
แต่พอผมถามถึงข้อมูล partner ผมก็ไม่ได้เตรียมมา และพอถามถึง mock-up ก็ได้รับคำตอบว่า Graphic Designer ป่วย เลยไม่ได้ทำ
ง่ายๆ แบบนั้นเลย...
ในความเป็นจริง การทำงานแบบมืออาชีพนั้น เมื่อ commit กับงานใดแล้ว ต่อให้ต้องทุ่มสรรพกำลังและต้นทุนเท่าไหร่ก็ตาม ก็ต้องทำงานให้ลุล่วงไปได้...ไม่ใช่หาเหตุผลมาอ้าง
เดชะบุญที่ผมมีข้อมูลติดตัวไว้เสมอ และ landlord ที่มาประชุมด้วย เป็นคนที่คุ้นเคยกับผมมากอยู่ เราก็เลยพอจะกล้อมแกล้มผ่านไปได้ด้วยดี
แต่หากผมเป็นคนรับงานเตรียมข้อมูลและ mock-up แล้วติดปัญหาที่ผมแก้ไม่ได้หรือต้องการความช่วยเหลือ ผมจะไม่ลังเลที่จะโทรหา partner ทันที และไม่มีทางปล่อยให้เกิดเหตุการณ์มาประชุมโดยที่ไม่มีอะไรในมือแบบนี้เด็ดขาด
สารภาพว่าตอนที่รู้ว่า partner ผมไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนั้น ผมแทบจะลุกขึ้นป้องหูเข้าให้ซะทีนึง แต่ก็ต้องระงับโทสะลงเสีย เพื่อรักษามิตรภาพที่มีให้กันมานาน ประกอบกับคิดว่าเป็นความผิดของผมด้วยที่ไม่ตามงานให้เข้มงวดกว่านี้
และที่เอามาแชร์นี่ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าให้เป็นเรื่องเตือนใจสำหรับใครก็ตามที่ทำงานร่วมกับ partner...
อะไรก็ตามที่ทำลงไปแล้วรู้ว่าจะกระทบ partner ของเรา ให้คิดให้จงหนัก และอะไรที่ว่านั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ทั้ง partner และเรา จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะขึ้นชื่อว่า "หุ้นส่วน" แล้ว ย้งไงก็ต้องร่วมทุกข์และสุขกันเป็นธรรมดา
แล้วถามว่า ถ้า partner ของเราเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ ล่ะ เราจะทำยังไงดี?
...
ผมเชื่อว่า เราต้องให้โอกาสเค้าบ้าง หากแต่ก็ต้องมี judgement แห่งความผิดพลาดนั้น...
ถ้าพลาดอย่างไม่ตั้งใจจริงๆ หรือเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ จะกี่ครั้งผมก็ให้อภัยได้เสมอ
แต่ถ้าพลาดเพราะขาดความร้บผิดชอบอย่าง case ที่ผมแชร์ให้ฟังแล้วล่ะก็...ผมก็จะใช้อีก judgement หนึ่ง ที่ว่า "ให้โอกาสเป็นครั้งที่สอง แต่ไม่มีครั้งที่สาม"
ใครมีปัญหาคล้ายๆ แบบนี้บ้าง มาแชร์กันนะครับ
Comments
Post a Comment