Skip to main content

Post#2-280: ครอบครัวอันเป็นที่รัก

Post#2-280:
ทุกวันอาทิตย์ นางฟ้าตัวน้อยมีอันจะต้องมาปลุกผมตื่นแต่เช้าเสมอ ทั้งที่วันธรรมดา นางฟ้าจะไม่ค่อยตื่นเช้าซะเท่าไหร่

เท่าที่ผมเข้าใจ เด็กๆ ก็มักจะเป็นแบบนี้ ตรงที่วันหยุดก็อยากตื่นแต่เช้ามาเล่นนั่น นู่น นี่ และยิ่งผมไม่ค่อยมีเวลาในวันธรรมดารวมถึงวันเสาร์ด้วยแล้ว วันอาทิตย์จึงเป็นโอกาสเดียวที่ผมจะได้เล่นกับลูก

แม้จะง่วงแสนง่วงและเพลียแสนเพลียที่กรำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ แต่ผมก็เต็มใจที่จะตื่นมาเล่นกับลูก เล่นทั้งๆ ที่ง่วงนั่นเลย ^^

...

หลายๆ ครอบครัวก็มี pattern การใช้ชีวิตคล้ายๆ ผม ตรงที่หัวหน้าครอบครัวออกทำงานแต่เช้าและกลับบ้านค่ำมืดดึกดื่น ต้องทำงานหนักเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว ทุกอย่างต้องใช้เงิน

แต่กลับมาคิดอีกมุมหนึ่ง ผมว่าหลายๆ คน (รวมถึงผมด้วย) ติดกับดักของชีวิต...

จะมีประโยชน์อะไร ถ้ามัวแต่หาเงินให้ครอบครัวใช้ โดยไม่มีโอกาสได้มาร่วมเก็บเกี่ยวความสุขกับพวกเค้า?

แม้คนเมืองอย่างเรา จะอยู่โดยขาดเงินไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะละเลยการใช้ชีวิตกับครอบครัวได้...เราหาเงินเพื่อหล่อเลี้ยงครอบครัว ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ความสุขในครอบครัวเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยเช่นกัน

หลายคนที่ผมพบและพูดคุย...ก็มีความเห็นร่วมกันว่า รอยยิ้มของครอบครัวนี่แหละที่ทำให้พวกเค้าหายเหนื่อยและมีกำลังใจในการออกไปสู้ต่อ

อย่างที่ผมเคยแชร์ไว้...เมื่อคนเรามีใครสักคนที่ต้องดูแลและปกป้อง เมื่อนั้นเราจะมีพลังงานอันไม่จำกัด และเรื่องนี้มันจริงมากสำหรับผมและหลายๆ คน

...

ใครที่กำลังรับบทหัวหน้าครอบครัวที่ผมว่า ลองหันกลับมาทบทวนดูครับ...ว่าที่ก้มหน้าก้มตาทำงานน่ะ เพื่ออะไรแน่?

จะดีใจใช่มั๊ยที่วันหนึ่งประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน รวยล้นฟ้า แต่เมื่อกลับมาบ้าน กลับไม่มีใครมาร่วมดีใจด้วย?

ส่วนใครที่รับบทครอบครัวอยู่ อย่าลืมให้กำลังใจหัวหน้าครอบครัวที่เค้าออกไปเหนื่อยยาก และทุ่มทั้งชีวิตให้คนในครอบครัวได้อยู่สบาย

หลายๆ คนรวมทั้งผมเอง ต่างก็โชคดีมหาศาลที่ได้ครอบครัวที่เข้าใจ และเป็นแรงใจอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้ยืนระยะต่อสู้มาได้จนวันนี้

แต่กับอีกหลายๆ ครอบครัว ที่หัวหน้าครอบครัวและคนในครอบครัวยังไม่รู้ซึ้งถึงคุณค่าระหว่างกัน ทำให้สูญเสียวันเวลาที่ดีๆ ไปมากมาย

ถึงเวลาหรือยังครับ...ที่จะปรับเข้าหากัน หาส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกัน เพื่อให้ครอบครัวเป็นครอบครัวจริงๆ

สุขสันต์วันอาทิตย์ และขอให้ทุกครอบครัวมีความสุขครับ...

ส่วนผม...ขอตัวพาลูกและภรรยาไปดูหนังกับคุณพ่อและน้องชายก่อนนะครับ ^^

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...