Post#4-121:
ทุกช่วงเทศกาลที่หยุดยาวๆ ของบ้านเรา ก็มักจะมีการออกมารณรงค์เรื่อง 7 วันอันตราย กันเป็นประจำ...แต่ก็ทั้งเจ็บและตายกันมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติ
ผมไม่แน่ใจว่า เราแก้ไขปัญหาแบบ "เกาถูกที่คัน" มั๊ยหนอ?
ออกจะเจ็บใจอยู่มาก...แต่ผมคิดว่า บ้านนี้เมืองนี้ เก่งกันจังในด้านออกนโยบายและรณรงค์ แต่ไม่ค่อยจริงจังและต่อเนื่องในเรื่องการปฏิบัติให้เกิดผล
แล้วก็แปลก ที่บ้านเราเมืองเราก็ยังรณรงค์และแก้ไขปัญหากันแบบเดิมๆ มาเป็นสิบๆ ปี โดยรู้ทั้งรู้ว่า มันไม่ได้ผล...แต่ก็ยังคงแก้ปัญหาแบบเดิมๆ อยู่นั่นเอง
...
ผมว่า โดยแท้ที่จริงแล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย ที่ขาด "จิดสำนึก" ในการใช้รถใช้ถนน
อุบัติเหตุแต่ละครั้งก็เกิดจากเรื่องเดิมๆ คือเมาแล้วขับ, ง่วงหลับใน, เร่งทำรอบ, ชอบขับเร็ว และ ฯลฯ
ความจริงมันก็เป็นเรื่องน่าเคืองไม่น้อย ที่คนก่อเหตุมักปลอดภัย แต่คนเจ็บคนตายมักเป็นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย
แล้วคนก่อเหตุทั้งหลาย ก็มักจะชอบหงายการ์ด "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" ทุกทีไปสิน่า
ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บและตายอีกเท่าไหร่ คนที่ขาดจิตสำนึกจึงจะพอสำนึกได้บ้าง?
...
บางคนอาจนึกแย้งว่า มัวแต่แก้ที่จิตสำนึก จะกี่ปีกัน กว่าจะแก้ได้
นั่นสิครับ...ก็เพราะมัวคิดว่า มันใช้เวลานานกว่าจะแก้ได้ เราจึงไม่ลงมือแก้ไขที่ต้นเหตุเสียที มัวแต่มารณรงค์ป้องกันกันอยู่แบบนี้
แล้วมันได้ผลมั๊ยล่ะเนี่ย?
...
ผมว่า บางปัญหานั้น ไม่ได้สำคัญที่ว่า จะใช้เวลาในการแก้ไขนานเท่าไร แต่มันอยู่ที่ว่า จะลงมือเริ่มแก้ไขแบบจริงๆ จังๆ เมื่อไหร่มากกว่า
ชาติที่เจริญแล้ว กว่าจะทำให้แต่ละบุคคลมีจิตสำนึกในระดับสูง เค้าก็ไม่ได้ดีแบบนี้กันมาแต่เดิม...ก็อาศัยการปลูกจิตสำนึกแบบต่อเนื่องมานับสิบๆ ร้อยๆ ปีเช่นกัน
ทำนอง เอา "น้ำดี" มาไล่ "น้ำเสีย" ออกไป นั่นล่ะครับ
ดังนั้น อย่ามัวแต่อ้างกันว่า "ใครๆ เค้าก็ทำ (เลว) กันทั้งนั้น" แต่ควรจะเปลี่ยนให้เป็น "ใครๆ เค้าก็ทำดีกันทั้งนั้น" จะดีกว่า
...อยากให้บ้านเมืองดี จึงต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนครับ...ช่วยกันทำดีให้มากๆ อย่าให้พวก "มักง่ายหงายการ์ดฯ" พร่ำเพรื่อ มีที่ยืน...
#เพลียใจกับการรณรงค์ #เก่งจังเรื่องโชว์ดับไฟ #หันมาใส่ใจกับการป้องกันไฟไหม้แบบยั่งยืนดีมั๊ย
ทุกช่วงเทศกาลที่หยุดยาวๆ ของบ้านเรา ก็มักจะมีการออกมารณรงค์เรื่อง 7 วันอันตราย กันเป็นประจำ...แต่ก็ทั้งเจ็บและตายกันมากมายจนกลายเป็นเรื่องปกติ
ผมไม่แน่ใจว่า เราแก้ไขปัญหาแบบ "เกาถูกที่คัน" มั๊ยหนอ?
ออกจะเจ็บใจอยู่มาก...แต่ผมคิดว่า บ้านนี้เมืองนี้ เก่งกันจังในด้านออกนโยบายและรณรงค์ แต่ไม่ค่อยจริงจังและต่อเนื่องในเรื่องการปฏิบัติให้เกิดผล
แล้วก็แปลก ที่บ้านเราเมืองเราก็ยังรณรงค์และแก้ไขปัญหากันแบบเดิมๆ มาเป็นสิบๆ ปี โดยรู้ทั้งรู้ว่า มันไม่ได้ผล...แต่ก็ยังคงแก้ปัญหาแบบเดิมๆ อยู่นั่นเอง
...
ผมว่า โดยแท้ที่จริงแล้ว ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย ที่ขาด "จิดสำนึก" ในการใช้รถใช้ถนน
อุบัติเหตุแต่ละครั้งก็เกิดจากเรื่องเดิมๆ คือเมาแล้วขับ, ง่วงหลับใน, เร่งทำรอบ, ชอบขับเร็ว และ ฯลฯ
ความจริงมันก็เป็นเรื่องน่าเคืองไม่น้อย ที่คนก่อเหตุมักปลอดภัย แต่คนเจ็บคนตายมักเป็นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย
แล้วคนก่อเหตุทั้งหลาย ก็มักจะชอบหงายการ์ด "รู้เท่าไม่ถึงการณ์" ทุกทีไปสิน่า
ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บและตายอีกเท่าไหร่ คนที่ขาดจิตสำนึกจึงจะพอสำนึกได้บ้าง?
...
บางคนอาจนึกแย้งว่า มัวแต่แก้ที่จิตสำนึก จะกี่ปีกัน กว่าจะแก้ได้
นั่นสิครับ...ก็เพราะมัวคิดว่า มันใช้เวลานานกว่าจะแก้ได้ เราจึงไม่ลงมือแก้ไขที่ต้นเหตุเสียที มัวแต่มารณรงค์ป้องกันกันอยู่แบบนี้
แล้วมันได้ผลมั๊ยล่ะเนี่ย?
...
ผมว่า บางปัญหานั้น ไม่ได้สำคัญที่ว่า จะใช้เวลาในการแก้ไขนานเท่าไร แต่มันอยู่ที่ว่า จะลงมือเริ่มแก้ไขแบบจริงๆ จังๆ เมื่อไหร่มากกว่า
ชาติที่เจริญแล้ว กว่าจะทำให้แต่ละบุคคลมีจิตสำนึกในระดับสูง เค้าก็ไม่ได้ดีแบบนี้กันมาแต่เดิม...ก็อาศัยการปลูกจิตสำนึกแบบต่อเนื่องมานับสิบๆ ร้อยๆ ปีเช่นกัน
ทำนอง เอา "น้ำดี" มาไล่ "น้ำเสีย" ออกไป นั่นล่ะครับ
ดังนั้น อย่ามัวแต่อ้างกันว่า "ใครๆ เค้าก็ทำ (เลว) กันทั้งนั้น" แต่ควรจะเปลี่ยนให้เป็น "ใครๆ เค้าก็ทำดีกันทั้งนั้น" จะดีกว่า
...อยากให้บ้านเมืองดี จึงต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนครับ...ช่วยกันทำดีให้มากๆ อย่าให้พวก "มักง่ายหงายการ์ดฯ" พร่ำเพรื่อ มีที่ยืน...
#เพลียใจกับการรณรงค์ #เก่งจังเรื่องโชว์ดับไฟ #หันมาใส่ใจกับการป้องกันไฟไหม้แบบยั่งยืนดีมั๊ย
Comments
Post a Comment