Post#4-136:
ค่ำวันนี้ ผมนั่งถก idea กับเพื่อนในเรื่องของ project ใหม่ ที่อาจจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน
เวลาถกกันแบบนี้ ผมมักจะชอบสลับบทกับเพื่อนไปๆ มาๆ ระหว่างการเป็น "ฝ่ายเสนอ" และ "ฝ่ายค้าน"
พูดง่ายๆ ก็คือฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่มองหา "จุดอ่อน" หรือ "ช่องว่าง" ที่ฝ่ายเสนอ แจกแจง ideaให้ฝ่ายค้านฟัง นั่นเอง
...
ถ้าฝ่ายเสนอไม่สามารถชี้แจงได้จะแจ้ง ก็แปลว่า idea นั้น ยังไม่ชัดเจนพอ หรือยังคิดไม่รอบคอบ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า ถ้าฝ่ายค้านหาจุดอ่อนไม่เจอ จะแปลว่า idea นั้นดีแล้วนะครับ...เพียงแต่นับว่า "ผ่าน" การซักค้านในระดับหนึ่ง ก็เท่านั้น
บ่อยครั้งที่ idea ที่ดูเหมือนจะดีในตอนแรก กลับต้องถูกโยนทิ้งไป เมื่อถกกันมาถึงขั้นตอนการปฏิบัติก็มี หรือเมื่อคำนวณความคุ้มค่าของการลงทุน ก็มี
...
ผมชอบบรรยากาศของการถก idea เพราะสำหรับผมแล้ว มันคือ "การออกกำลังสมอง" ได้ดีเป็นพิเศษ
ยิ่งถูกซักค้านมากประเด็นเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกว่า นี่เป็นความท้าทายอย่างสร้างสรรค์...เพราะบ่อยครั้ง ที่การซักค้านนี้เอง เป็นตัวผลักดันให้ idea บางเรื่อง ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ถ้าไม่มีการซักค้านใดๆ เลย...ผมจะรู้สึกไม่มั่นใจเสียด้วยซ้ำ ว่า idea นั้น ดีพอหรือไม่ หรือไม่มั่นใจว่า อีกฝ่ายเข้าใจมั๊ยหนอ ว่าเรากำลังนำเสนอประเด็นไหน?
...
ผมยืนยันว่า idea ที่ดีนั้น ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องเห็นตรงกันไปเสียทั้งหมด แต่มันควรจะเป็น idea ที่ "ตรรกะ" นั้น "ถูกต้อง" แม้ว่าอาจจะไม่ "ถูกใจ" ทุกคน ก็ตาม
ข้อสังเกตของผมก็คือ อย่าพยายามถก idea กับพวกชอบสอพลอ เพราะเราจะไม่ได้อะไรนอกจากคำยกยอและชมเชยที่ไม่จริงใจ
และอย่าพยายามถก idea กับคนที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่เป็น...เพราะเราอาจต้องสูญเสีย idea ดีๆ ด้วยการถูกขัดคอแบบไม่เป็นเรื่อง
ก่อนลงมือทำตาม idea นั้นๆ ก็จงถก idea กับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย...ไม่ใช่ถกกับคนที่เราคิดว่าเป็น Guru
...ที่สำคัญที่สุด ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่า "ถก idea" กับ "ถกเถียง" นั้น บางครั้งดูกันตรงที่ว่า เรา focus ไปที่ "เหตุผล" หรือ "อารมณ์" ครับ...
#เห็นต่างไม่แปลก #ถกเหตุผลวางอารมณ์ #ซักค้านเพื่อขัดเกลาไม่ใช่ซักให้จนมุม #อธิบายไม่ได้แปลว่ายังคิดไม่ชัดเจน
ค่ำวันนี้ ผมนั่งถก idea กับเพื่อนในเรื่องของ project ใหม่ ที่อาจจะมีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน
เวลาถกกันแบบนี้ ผมมักจะชอบสลับบทกับเพื่อนไปๆ มาๆ ระหว่างการเป็น "ฝ่ายเสนอ" และ "ฝ่ายค้าน"
พูดง่ายๆ ก็คือฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่มองหา "จุดอ่อน" หรือ "ช่องว่าง" ที่ฝ่ายเสนอ แจกแจง ideaให้ฝ่ายค้านฟัง นั่นเอง
...
ถ้าฝ่ายเสนอไม่สามารถชี้แจงได้จะแจ้ง ก็แปลว่า idea นั้น ยังไม่ชัดเจนพอ หรือยังคิดไม่รอบคอบ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า ถ้าฝ่ายค้านหาจุดอ่อนไม่เจอ จะแปลว่า idea นั้นดีแล้วนะครับ...เพียงแต่นับว่า "ผ่าน" การซักค้านในระดับหนึ่ง ก็เท่านั้น
บ่อยครั้งที่ idea ที่ดูเหมือนจะดีในตอนแรก กลับต้องถูกโยนทิ้งไป เมื่อถกกันมาถึงขั้นตอนการปฏิบัติก็มี หรือเมื่อคำนวณความคุ้มค่าของการลงทุน ก็มี
...
ผมชอบบรรยากาศของการถก idea เพราะสำหรับผมแล้ว มันคือ "การออกกำลังสมอง" ได้ดีเป็นพิเศษ
ยิ่งถูกซักค้านมากประเด็นเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกว่า นี่เป็นความท้าทายอย่างสร้างสรรค์...เพราะบ่อยครั้ง ที่การซักค้านนี้เอง เป็นตัวผลักดันให้ idea บางเรื่อง ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แต่ถ้าไม่มีการซักค้านใดๆ เลย...ผมจะรู้สึกไม่มั่นใจเสียด้วยซ้ำ ว่า idea นั้น ดีพอหรือไม่ หรือไม่มั่นใจว่า อีกฝ่ายเข้าใจมั๊ยหนอ ว่าเรากำลังนำเสนอประเด็นไหน?
...
ผมยืนยันว่า idea ที่ดีนั้น ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนต้องเห็นตรงกันไปเสียทั้งหมด แต่มันควรจะเป็น idea ที่ "ตรรกะ" นั้น "ถูกต้อง" แม้ว่าอาจจะไม่ "ถูกใจ" ทุกคน ก็ตาม
ข้อสังเกตของผมก็คือ อย่าพยายามถก idea กับพวกชอบสอพลอ เพราะเราจะไม่ได้อะไรนอกจากคำยกยอและชมเชยที่ไม่จริงใจ
และอย่าพยายามถก idea กับคนที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่เป็น...เพราะเราอาจต้องสูญเสีย idea ดีๆ ด้วยการถูกขัดคอแบบไม่เป็นเรื่อง
ก่อนลงมือทำตาม idea นั้นๆ ก็จงถก idea กับคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย...ไม่ใช่ถกกับคนที่เราคิดว่าเป็น Guru
...ที่สำคัญที่สุด ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่า "ถก idea" กับ "ถกเถียง" นั้น บางครั้งดูกันตรงที่ว่า เรา focus ไปที่ "เหตุผล" หรือ "อารมณ์" ครับ...
#เห็นต่างไม่แปลก #ถกเหตุผลวางอารมณ์ #ซักค้านเพื่อขัดเกลาไม่ใช่ซักให้จนมุม #อธิบายไม่ได้แปลว่ายังคิดไม่ชัดเจน
Comments
Post a Comment