Post#4-147:
เรื่องมีอยู่ว่า ตารางนัดหมายในแต่ละวันของผมนั้น แน่นจนแทบหาช่องว่างไม่ค่อยจะได้...ส่งผลให้ผู้คนรอบข้าง, โดยเฉพาะทีมงาน, ต้องตามจองเวลาให้เป็นมั่นเป็นเหมาะ
บางครั้งถามเวลาผมห่างกันแค่ครึ่งวันเท่านั้น...ที่ว่าว่างก็อาจกลายเป็นไม่ว่างไปเสียแล้ว
...
"เวลา" จึงเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ...ทำให้ ผมเกลียดการมาสาย, ส่งงานสาย และการรอคอยแบบไม่จำเป็น
หลายๆ คน ก็คงจะเป็นอย่างผม...ก็คือ ถ้าเราเป็นฝ่ายทำให้เกิดการผิดเวลานัดหมาย, ผิดเวลาส่งงาน หรือทำให้ผู้อื่นต้องเสียเวลารอโดยไม่จำเป็นนี่...
เราทำใจไม่ค่อยจะได้เอาเลยจริงๆ
...
เช้านี้ เหตุการณ์ที่ผมเกลียดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง...คือลูกน้องคนหนึ่ง line ขอเวลา มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อจะนัดให้คู่ค้าเข้ามาสวัสดีปีใหม่
ด้วยความที่ตารางนัดในสัปดาห์นี้มันไม่นิ่ง ผมจึงไม่ได้ตอบรับไป
ผมมารู้ก็ตอนที่เธอ line มาถามประมาณว่า "พี่จะเข้ากี่โมงคะ วันนี้นัดคู่ค้าไว้"
ทันทีนั้น ผมก็โทรกลับไปถามเธอว่า ผมไม่เคยตอบยืนยัน ทำไมถึงนัดคู่ค้ามา?
เธอตอบผมว่า "อ้าว ก็เห็นพี่ไม่ตอบ หนูก็นึกว่า ok"
เป็นไงครับ ตรรกะของเธอ?
...
บ่อยครั้งและมากหน ที่เราต่างก็ผลักตัวเองและผู้อื่นไปสู่ความเดือดร้อน เพราะมักง่ายกับการ "ทึกทักเอาเอง"
ที่น่าเสียใจมากขึ้นไปอีกก็คือ...เรามักจะโทษว่า คนนั้น นู้น นี้ ทำให้เราเข้าใจผิด...
ดังนั้น เราไม่ใช่คนผิด คนอื่นอยากไม่ชัดเจนเอง ทำไมล่ะ
...
อย่างกรณีนี้ ผมไม่ได้จะบอกว่า ผม "ไม่ผิด" เพราะผมเองก็พลาดที่ไม่ได้ปฏิเสธนัดไปให้ชัดเจน...และผมจะไม่โกรธเลย ถ้าการทึกทักไปเองของเธอ เพียงแค่ทำให้ผมเดือดร้อนคนเดียว
นอกจากนั้น ผมยังรู้สึกแย่มาก เพราะไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากเธอสักคำ...นั่นคงเป็นเพราะเธอไม่รู้สึกว่าเธอผิด
หรือเธออาจจะคิดว่า ผมต่างหากที่ผิด...ผิดที่ไม่ตอบปฏิเสธเธอให้ชัดเจนแต่แรก
หนำซ้ำ ผมยังต้องเป็นฝ่ายแก้ไข ด้วยการโทรไปขอโทษคู่ค้า และเชิญให้มาพบกันข้างนอก โดยที่ผมต้องเสียมารยาทด้วยการขอพักการประชุมกับคู่ค้าอีกท่านหนึ่ง
เรียกว่า เหตุการณ์นี้ ผมทำให้คู่ค้าต้องเสียความรู้สึกถึง 2 ราย...เพียงเพราะความเข้าใจไปเองของเธอ กับการที่ผมไม่ได้ตอบปฏิเสธให้ชัดเจน
ผมต้องนับหนึ่งถึงร้อยในใจเสียหลายเที่ยว...แล้วก็ได้แต่โทษตัวเองว่า ผมยังอบรมลูกน้องไม่ดีพอ ก็แล้วกัน
...ทวงคำขอโทษกับคนไม่รู้สึกผิด ถือเป็นความไร้ค่า...ดังนั้น จึงควรหันมาทบทวนตัวเราเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำดีกว่าครับ...
#เตือนตัวเองว่าคราวหน้าตอบให้ชัด #คนอื่นไม่รู้สำนึกเราต้องรู้สำนึก #ลูกน้องแย่เพราะนายไม่อบรม #ให้อภัยแต่ไม่มีลืม #คนดีชอบแก้ไข #คนอะไรน๊าที่ชอบแก้ตัว
เรื่องมีอยู่ว่า ตารางนัดหมายในแต่ละวันของผมนั้น แน่นจนแทบหาช่องว่างไม่ค่อยจะได้...ส่งผลให้ผู้คนรอบข้าง, โดยเฉพาะทีมงาน, ต้องตามจองเวลาให้เป็นมั่นเป็นเหมาะ
บางครั้งถามเวลาผมห่างกันแค่ครึ่งวันเท่านั้น...ที่ว่าว่างก็อาจกลายเป็นไม่ว่างไปเสียแล้ว
...
"เวลา" จึงเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ...ทำให้ ผมเกลียดการมาสาย, ส่งงานสาย และการรอคอยแบบไม่จำเป็น
หลายๆ คน ก็คงจะเป็นอย่างผม...ก็คือ ถ้าเราเป็นฝ่ายทำให้เกิดการผิดเวลานัดหมาย, ผิดเวลาส่งงาน หรือทำให้ผู้อื่นต้องเสียเวลารอโดยไม่จำเป็นนี่...
เราทำใจไม่ค่อยจะได้เอาเลยจริงๆ
...
เช้านี้ เหตุการณ์ที่ผมเกลียดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง...คือลูกน้องคนหนึ่ง line ขอเวลา มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อจะนัดให้คู่ค้าเข้ามาสวัสดีปีใหม่
ด้วยความที่ตารางนัดในสัปดาห์นี้มันไม่นิ่ง ผมจึงไม่ได้ตอบรับไป
ผมมารู้ก็ตอนที่เธอ line มาถามประมาณว่า "พี่จะเข้ากี่โมงคะ วันนี้นัดคู่ค้าไว้"
ทันทีนั้น ผมก็โทรกลับไปถามเธอว่า ผมไม่เคยตอบยืนยัน ทำไมถึงนัดคู่ค้ามา?
เธอตอบผมว่า "อ้าว ก็เห็นพี่ไม่ตอบ หนูก็นึกว่า ok"
เป็นไงครับ ตรรกะของเธอ?
...
บ่อยครั้งและมากหน ที่เราต่างก็ผลักตัวเองและผู้อื่นไปสู่ความเดือดร้อน เพราะมักง่ายกับการ "ทึกทักเอาเอง"
ที่น่าเสียใจมากขึ้นไปอีกก็คือ...เรามักจะโทษว่า คนนั้น นู้น นี้ ทำให้เราเข้าใจผิด...
ดังนั้น เราไม่ใช่คนผิด คนอื่นอยากไม่ชัดเจนเอง ทำไมล่ะ
...
อย่างกรณีนี้ ผมไม่ได้จะบอกว่า ผม "ไม่ผิด" เพราะผมเองก็พลาดที่ไม่ได้ปฏิเสธนัดไปให้ชัดเจน...และผมจะไม่โกรธเลย ถ้าการทึกทักไปเองของเธอ เพียงแค่ทำให้ผมเดือดร้อนคนเดียว
นอกจากนั้น ผมยังรู้สึกแย่มาก เพราะไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากเธอสักคำ...นั่นคงเป็นเพราะเธอไม่รู้สึกว่าเธอผิด
หรือเธออาจจะคิดว่า ผมต่างหากที่ผิด...ผิดที่ไม่ตอบปฏิเสธเธอให้ชัดเจนแต่แรก
หนำซ้ำ ผมยังต้องเป็นฝ่ายแก้ไข ด้วยการโทรไปขอโทษคู่ค้า และเชิญให้มาพบกันข้างนอก โดยที่ผมต้องเสียมารยาทด้วยการขอพักการประชุมกับคู่ค้าอีกท่านหนึ่ง
เรียกว่า เหตุการณ์นี้ ผมทำให้คู่ค้าต้องเสียความรู้สึกถึง 2 ราย...เพียงเพราะความเข้าใจไปเองของเธอ กับการที่ผมไม่ได้ตอบปฏิเสธให้ชัดเจน
ผมต้องนับหนึ่งถึงร้อยในใจเสียหลายเที่ยว...แล้วก็ได้แต่โทษตัวเองว่า ผมยังอบรมลูกน้องไม่ดีพอ ก็แล้วกัน
...ทวงคำขอโทษกับคนไม่รู้สึกผิด ถือเป็นความไร้ค่า...ดังนั้น จึงควรหันมาทบทวนตัวเราเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำดีกว่าครับ...
#เตือนตัวเองว่าคราวหน้าตอบให้ชัด #คนอื่นไม่รู้สำนึกเราต้องรู้สำนึก #ลูกน้องแย่เพราะนายไม่อบรม #ให้อภัยแต่ไม่มีลืม #คนดีชอบแก้ไข #คนอะไรน๊าที่ชอบแก้ตัว
Comments
Post a Comment