Post#4-141:
เช้าวันนี้ ผมไปพบอดีตเจ้านายเพื่อกราบสวัสดีปีใหม่และขอพรเพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต
พรข้อหนึ่งที่ผมชอบมาก...ก็คือ ขอให้มีสติกำกับอารมณ์อยู่เป็นนิจ
ตลกเหลือเชื่อ ที่ช่วงหัวค่ำ พรที่ท่านมอบให้ ก็ช่วยดึงสติผมไว้จริงๆ...เพราะ Business Plan ปีนี้ ของผม ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากกลุ่มผู้ถือหุ้น
นั่นหมายความว่า ความเหนื่อยยากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่อาจแปลงเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้...และผมยังมีภาระที่จะต้องผลักดันให้ Business Plan ผ่านการอนุมัติให้จงได้
...
บ่อยครั้งที่ความเหนื่อยยากในการทำงานนั้น ไม่ได้จบลงแบบ Happy Ending...ตรงกันข้าม มันมักจะมีแนวโน้มไปทาง Hectic Ending หรือ Tragedy เสียล่ะมากกว่า
ถ้าใครดึงสติไว้ไม่ดีพอ...เราก็มักจะ re-act กับความผิดหวังไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์...ส่งผลให้ชีวิตในวันรุ่งขึ้นนั้น สับสนและวุ่นวาย
ดังนั้น พระท่านจึงมักจะเทศน์สั่งสอน และผู้ใหญ่ท่านจึงมักจะให้พร...ให้เรามีสติกำกับอารมณ์อยู่เป็นนิจ
บางที การจะตัดสินว่า เรามีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอมั๊ย ก็คงต้องดูที่ว่า เรากำกับตัวเองให้ตอบสนองต่อมิจฉาอารมณ์ ได้ดีเพียงใด กระมัง?
...
ที่ว่ามานี่ ก็ใช่ว่า ผมจะคงสติให้กำกับอารมณ์ได้ตลอดทุกครั้งไปหรอกนะครับ...สารภาพว่า ยังห่างไกลจากมิตินั้นอยู่มาก
แต่อย่างน้อย ผมก็มีโอกาสได้นั่งทบทวนตัวเองในเกือบจะทุกๆ ค่ำคืน ว่าวันนี้ทำอะไรได้ดี ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง
แล้วก็ไม่เคยลืมที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ได้ยังไง?
...
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพนับถือ ก็เคยสอนผมไว้ว่า "ไม่เคยมีชีวิต ที่ "ดีที่สุด" เพราะมันควรจะมีแต่ชีวิต ที่ "ดีกว่า" เสมอ"
ตราบเท่าที่เราไม่หยุดหรือละเลยที่จะปรับปรุงตัว...เราก็จะไม่จมอยู่กับความผิดพลาดที่เรามี หรือเป็น
...ผมจึงเชื่อว่า ก็ในเมื่อเราไม่ท้อ มีหรือที่ชีวิตเราจะถอยหลัง...ก็ในเมื่อเราไม่หยุด มีหรือที่ชีวิตเราจะล้าหลัง...
#KeepCalmAndFightAgain #ท้อได้แต่อย่าถอย #ตราบที่ยังมีพรุ่งนี้เราก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ #แพ้พ่ายไม่ใช่ยอมแพ้ #แพ้ได้ก็ชนะได้หากปรับปรุง
เช้าวันนี้ ผมไปพบอดีตเจ้านายเพื่อกราบสวัสดีปีใหม่และขอพรเพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต
พรข้อหนึ่งที่ผมชอบมาก...ก็คือ ขอให้มีสติกำกับอารมณ์อยู่เป็นนิจ
ตลกเหลือเชื่อ ที่ช่วงหัวค่ำ พรที่ท่านมอบให้ ก็ช่วยดึงสติผมไว้จริงๆ...เพราะ Business Plan ปีนี้ ของผม ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากกลุ่มผู้ถือหุ้น
นั่นหมายความว่า ความเหนื่อยยากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่อาจแปลงเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้...และผมยังมีภาระที่จะต้องผลักดันให้ Business Plan ผ่านการอนุมัติให้จงได้
...
บ่อยครั้งที่ความเหนื่อยยากในการทำงานนั้น ไม่ได้จบลงแบบ Happy Ending...ตรงกันข้าม มันมักจะมีแนวโน้มไปทาง Hectic Ending หรือ Tragedy เสียล่ะมากกว่า
ถ้าใครดึงสติไว้ไม่ดีพอ...เราก็มักจะ re-act กับความผิดหวังไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์...ส่งผลให้ชีวิตในวันรุ่งขึ้นนั้น สับสนและวุ่นวาย
ดังนั้น พระท่านจึงมักจะเทศน์สั่งสอน และผู้ใหญ่ท่านจึงมักจะให้พร...ให้เรามีสติกำกับอารมณ์อยู่เป็นนิจ
บางที การจะตัดสินว่า เรามีความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอมั๊ย ก็คงต้องดูที่ว่า เรากำกับตัวเองให้ตอบสนองต่อมิจฉาอารมณ์ ได้ดีเพียงใด กระมัง?
...
ที่ว่ามานี่ ก็ใช่ว่า ผมจะคงสติให้กำกับอารมณ์ได้ตลอดทุกครั้งไปหรอกนะครับ...สารภาพว่า ยังห่างไกลจากมิตินั้นอยู่มาก
แต่อย่างน้อย ผมก็มีโอกาสได้นั่งทบทวนตัวเองในเกือบจะทุกๆ ค่ำคืน ว่าวันนี้ทำอะไรได้ดี ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง
แล้วก็ไม่เคยลืมที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า จะทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ได้ยังไง?
...
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพนับถือ ก็เคยสอนผมไว้ว่า "ไม่เคยมีชีวิต ที่ "ดีที่สุด" เพราะมันควรจะมีแต่ชีวิต ที่ "ดีกว่า" เสมอ"
ตราบเท่าที่เราไม่หยุดหรือละเลยที่จะปรับปรุงตัว...เราก็จะไม่จมอยู่กับความผิดพลาดที่เรามี หรือเป็น
...ผมจึงเชื่อว่า ก็ในเมื่อเราไม่ท้อ มีหรือที่ชีวิตเราจะถอยหลัง...ก็ในเมื่อเราไม่หยุด มีหรือที่ชีวิตเราจะล้าหลัง...
#KeepCalmAndFightAgain #ท้อได้แต่อย่าถอย #ตราบที่ยังมีพรุ่งนี้เราก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่ #แพ้พ่ายไม่ใช่ยอมแพ้ #แพ้ได้ก็ชนะได้หากปรับปรุง
Comments
Post a Comment