Skip to main content

Post#4-130: Caddy คู่ใจ / ลูกน้องคู่ยาก

Post#4-130:
เช้าตรู่วันนี้ ผมพบตัวเองย่ำต๊อกอยู่ในสนามกอล์ฟอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปจากกีฬาในดวงใจนี้ กว่า 2 เดือน

ผมเล่นกอล์ฟที่สนามแห่งนี้มากว่า 10 ปี โดยไม่คิดเปลี่ยนไปเล่นที่อื่น...ด้วยเหตุผลหลากหลาย

หนึ่ง คือสามารถออกรอบคนเดียวได้ ซึ่งสนามอื่นๆ ต้องมีสมาชิกออกรอบขั้นต่ำ 3-4 คน

สอง คือสนามอยู่ใกล้บ้านมาก ขับรถไม่ถึง 30 นาที ก็ถึงแล้ว

และสาม คือข้อสำคัญ...นั่นก็คือ มี Caddy คู่ใจ ที่ถือถุงกอล์ฟให้ผม ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเล่นกอล์ฟ เมื่อ 10 กว่าปี ที่ผ่านมา

...

ใครที่เป็นนักกอล์ฟจะรู้ดี ว่าถ้าวันไหนดวงกุด เจอ Caddy ที่เคมีไม่ตรงกัน วันนั้นความสนุกในการเล่นกอล์ฟจะหายไปเกินกว่าครึ่ง

แต่ถ้าวันไหนได้ Caddy ประสบการณ์สูง และอัธยาศัยดี...วันนั้น การเล่นกอล์ฟของเราจะง่ายขึ้นเยอะ

เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่อารมณ์มีผลต่อการเล่นเป็นอย่างมาก...ดังนั้น การมีคนรู้ใจคอยช่วยอยู่ข้างๆ จึงทำให้การเล่นเต็มไปด้วยความสนุก

ส่วนผลงานจะดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือแล้ว

...

ในชีวิตการทำงานก็เช่นกัน...เจ้านายทั้งหลายก็มิอาจทำงานได้อย่างสนุกสนานและมีความสุข ตราบเท่าที่ยังหาใครที่เป็น "มือขวา" และ "มือซ้าย" ไม่เจอ

นักกอล์ฟเล่นกอล์ฟดีไม่ได้ หากขาด Caddy ฉันใด...เจ้านายทั้งหลายก็มิอาจทำงานให้ยอดเยี่ยมได้ หากขาดลูกน้อง ฉันนั้น

นักกอล์ฟจำนวนมาก ไต่เต้าและพัฒนามาจากการเป็น Caddy มาก่อน...แปลว่าลูกน้องที่มีโอกาสเป็น "มือของนาย" จึงมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นไปเป็น "เจ้านาย" ได้ในอนาคต

...หากเป็น Caddy ที่ตั้งใจและใฝ่ดี วันหนึ่งย่อมได้ดี และหากเป็นลูกน้องที่ยอดเยี่ยม วันหนึ่งย่อมต้องได้เป็นเจ้านายในดวงใจ อย่างแน่นอนครับ...

#ขอบคุณคู่ใจในสนาม #ขอบคุณมือขวาและมือซ้ายทั้งหลาย #สักวันพวกคุณต้องเป็นนายที่ดี #กอล์ฟสอนใจ



Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...