Skip to main content

Post#4-268: แก้ปัญหาให้ถูก

Post#4-268:
ว่าอันที่จริง ผมก็ชวนทุกท่านคุยอยู่บ่อยไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องราวของปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ก็ตาม

และผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เราไม่อาจแก้ปัญหาใดๆ ได้ด้วยการหนีปัญหา...

มีแต่ต้องเผชิญหน้ากับมันเท่านั้น!

...

ยังไงก็ตาม...ปัญหาบางปัญหาก็ต้องรอช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อจะเข้าไปแก้อยู่เหมือนกัน

ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาเด็กทะเลาะกันตามประสา...

บางครั้งเด็กก็แก้กันเองได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร...แต่พอผู้ใหญ่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง แทนที่จะจบได้เร็ว ก็กลายเป็นเด็กมองหน้ากันไม่ติด แถมผู้ใหญ่ก็บาดหมางกันวุ่นวาย

คงเหมือนกับเวลาที่เราเป็นสิวหรือฝีหนองนั่นล่ะครับ...ถ้าไปยุ่งกับมันก่อนเวลาที่ใช่ นอกจากสิวหรือฝีจะไม่ยุบแล้ว มันยังอาจจะอักเสบกลายเป็นแผลเรื้อรังใหญ่โตอีกด้วย

...

ดังนั้น การที่เราจะแก้ปัญหาใดๆ...ก็ใช่ว่าเราจะแก้มันอย่างไร้กระบวนการและการประเมินผลลัพธ์ได้

แม้ว่าเราควรจะต้องเร่งลงมือในการแก้ปัญหาหรือสกัดไม่ให้ปัญหาลุกลาม...แต่การ "เร่ง" กับการ "ลนลาน" นั้น ไม่เหมือนกัน

ถ้าแก้ปัญหาโดยขาดสติกำกับ ก็หมายถึงการทำอะไรโดยไร้ปัญญา...ซึ่งผลลัพธ์อาจจะออกมาแย่กว่าก่อนแก้ปัญหา ก็เป็นได้

...จงจำไว้ว่า หากจะต้องแก้ปัญหาใดๆ เราจะลงมือแก้ปัญหาด้วยสติ, ปัญญา และความเด็ดขาด โดยคำนึงถึงห้วงเวลาที่เหมาะสมด้วยครับ...

#NoteToSelf: 

  • แม้ว่าเราจะ "ร้อนใจ" กับปัญหา แต่เราไม่ควรต้อง "ใจร้อน" กับการแก้ปัญหา
  • หนทางในการแก้ปัญหามักมีมากกว่า "หนึ่ง" เสมอ...ดังนั้น อย่าลนลานจนเกินไป จนกลายเป็นแก้ปัญหาแล้วแย่กว่าเดิม
  • ปัญหามีไว้ "แก้" ไม่ได้มีไว้ "กลุ้ม"
  • ในชีวิตคนเรา...ยากนักที่จะไม่มีปัญหา...วันไหนที่คิดว่าไม่มีปัญหา แน่ใจนะ ว่าไม่ใช่ "มองปัญหาไม่ออก"

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...