Post#4-280:
ช่างโชคดีที่วันนี้ผมมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมกิจการที่มีโรงงานแปรรูปสินค้าชนิดหนึ่ง...ซึ่งถือเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศเรา
ขณะที่เยี่ยมชมและฟังคำอธิบายจากทีมงานแล้ว...ผมรู้สึกได้เลยครับ ว่าการที่บริษัทนี้ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ ในอุตสาหกรรมได้นั้น ย่อมต้องมาจาก "ฝีมือ" และ "ความทุ่มเท" ล้วนๆ
เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ, กระบวนการตรวจรับ, กระบวนการผลิต, กระบวนการจัดเก็บ, กระบวนการขนส่ง, กระบวนการบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงกระบวนการในการดูแลพนักงาน...
ทุกเรื่องราวล้วนเกี่ยวเนื่องกันเป็นกระบวนการที่ดีเยี่ยมและทำงานสอดประสานกันราวกับผมกำลังได้มาดู Symphony Orchestra อยู่
...
นี่เองเป็นสิ่งที่องค์กรระดับชั้นนำ ทำได้ดีแตกต่างไปจากองค์กรระดับอื่นทั่วไป
จากวิสัยทัศน์ไปเป็นนโยบาย และจากนโยบายไปเป็นแผนปฏิบัติการ...มันล้วนมีความเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกัน แบบที่เรียกว่า "seemless"
เมื่อน้ำจากต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำไหลไปในทางเดียวกันแล้ว...จึงทำให้สายน้ำสายนี้ทรงพลังและยิ่งใหญ่ได้อย่างน่าอัศจรรย์
...
ผมทำงานกับองค์กรและบริษัทต่างๆ มามาก...จึงพูดได้เต็มปากว่า องค์กรที่ฉายแววเติบโตและมั่งคั่งในประเทศเรานั้น มีอยู่มาก
แต่องค์กรที่ทั้ง "เติบโต", "มั่งคั่ง" ไปพร้อมๆ กับ "ยั่งยืน" ด้วยนั้น...มีน้อยกว่าน้อย
ลองไล่เรียงดูก็ได้ครับ...ว่าบ้านเรามีองค์กรหรือบริษัทที่เติบโต, มั่งคั่ง และมีอายุเกินกว่า 50 ปี สักกี่บริษัทกัน?
...
ดังนั้น องค์กรหรือบริษัทที่อยู่ยั่งยืนยงได้ จึงต้องมี DNA ที่พิเศษแตกต่างจากองค์กรหรือบริษัททั่วๆ ไป
เฉกเช่นตัวเราเอง ถ้าอยากโลดแล่นอยู่ในยุทธจักรแห่งธุรกิจไปได้นานๆ และเกษียณอย่างผู้ชนะแล้วล่ะก็
...เราคงต้องหมั่นเรียนรู้จากเจ้าของหรือผู้บริหารองค์กรที่เติบโต, มั่งคั่ง และยั่งยืนเหล่านี้...เพื่อให้เราเติบโต, มั่งคั่ง และยั่งยืน เฉกเช่นเดียวกันครับ...
#NoteToSelf:
- องค์กรที่มีอัตราเติบโต...แสดงถึงความสามารถในการบริหารธุรกิจ, ถ้ามั่งคั่งด้วย ก็แสดงถึงศักยภาพที่เหนือชั้นขึ้นไป และหากยั่งยืน ย่อมแสดงให้เห็นว่า องค์กรนั้น มี "ความเก่ง" ที่แท้จริง
- เติบโตได้ ก็อาจมีปัจจัยภายนอกช่วยหนุน, มั่งคั่งได้ ก็อาจมีจังหวะของตลาดมาเกี่ยวข้อง แต่ถ้ายั่งยืนได้ จำต้องอาศัยปัจจัยภายในเป็นหลักสำคัญ
- เราจะถึงเส้นชัยอย่างผู้ชนะได้ จึงต้องถึงพร้อมทั้งความสามารถในการเติบโต, ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มั่งคั่ง และถึงพร้อมด้วยสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดอย่างยั่งยืน
Comments
Post a Comment