Skip to main content

Post#4-269: ด่วนตัดสินคน

Post#4-269:
เอาจริงๆ ทุกคนก็รู้ว่า ทั้งเหล้าและบุหรี่นั้น มีประโยชน์มากกว่าโทษ

ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงมักมีมุมมองไปในทางที่ว่า คนที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ จึงกลายเป็นคนไม่ดีไปโดยปริยาย

แต่มุมมองแบบนี้ ใช้ไม่ได้กับความเป็นจริงเอาเสียเลย

เพราะเราไม่อาจสรุปได้แบบชัดเจนว่า ทุกคนที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ เป็นคนไม่ดี...ส่วนคนที่ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ เป็นคนดี

...

การรีบด่วนสรุปหรือตัดสินใครบางคนด้วยข้อมูลไม่กี่เรื่องแบบนี้ ถือเป็นอันตรายอย่างมากจริงๆ

คนรักหมาให้เราเห็น...ก็ไม่ได้แปลว่า เค้าไม่เคยตบกบาลเด็ก, เตะผู้หญิง หรือต่อยพระ ^^

คนเข้าห้องสมุดทุกวัน...ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าฉลาดปราดเปรื่อง

คนพูดจาดี, นำเสนอเก่ง...จึงไม่ได้แปลว่า เค้าทำงานเก่ง

เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินเจ้านายหรือลูกน้อง ว่าเค้าเป็นคนเก่งหรือคนดี จากคำพูดไม่กี่คำ, การกระทำไม่กี่อย่าง หรือจากบุคลิกลักษณะของเค้า

...

ยังไงก็ตาม ผมก็ไม่อาจปฏิเสธได้...ว่าการจะพิสูจน์ว่าใครเก่งหรือดีนั้น เราไม่อาจจะตัดสินได้โดยง่าย

นั่นไงครับ...ว่าทำไม สุภาษิตที่ว่า "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" และ "รู้หน้าไม่รู้ใจ" จึงยังสามารถนำมาเตือนใจเราได้เสมอ

ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า เราต้อง "ระแวง" ในการคบคน แต่ผมแนะนำว่า เราต้อง "ระวัง" ไว้บ้าง

...

ก่อนจะ "เชื่อใจ" ใคร ต้องเริ่มจาก "ไว้ใจ

ก่อนจะ "ไว้ใจ" ก็ควรต้อง "เข้าใจ"

ก่อนจะ "เข้าใจ" ยิ่งต้อง "หยั่งใจ"

...และจากประสบการณ์ของผม...หลังจาก "เชื่อใจ" ยังต้อง "เผื่อใจ" ไว้อีกชั้นหนึ่งด้วยครับ...

#NoteToSelf: 

  • อย่าด่วนตัดสินใคร เพราะเราอาจจะเสียใจในภายหลัง
  • จะเชื่อใจใคร ต้องเผื่อใจไว้ผิดหวังบ้าง...จะได้ไม่เจ็บใจตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  • หมั่นมองหาด้านดีของคนให้มากกว่ามองด้านลบ...แต่หากด้านลบเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบกับงาน จงระวัง
  • ไม่ควรไปนินทาคนที่เราไม่ชอบให้คนอื่นฟัง...เพราะเราเองก็คงไม่ชอบ ถ้าต้องตกเป็นคนที่ถูกนินทา

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...