Skip to main content

Post#4-276: ลูกน้องใฝ่ก้าวหน้า

Post#4-276:
โดยส่วนตัวผมชอบเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ และรวมไปถึงชอบเป็นผู้สนับสนุนให้ทั้งลูกและลูกน้องมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

อย่างล่าสุด...ทางทีมงานได้มาขอให้บริษัทสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อให้พนักงานมีโอกาสไปเรียนภาษาอังกฤษกับสถาบันภาษา

ผมตอบรับข้อเสนอเกือบจะทันที...โดยมีข้อแม้ว่า ใครก็ตามที่จะไปเรียน ต้องเอาจริงเอาจัง เพื่อให้ตัวเองเกิดการพัฒนา

แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้ อาจจะไม่ได้เห็นชัดเจนแบบปุ๊บปั๊บ...แต่ผมหวังว่า มันจะกลายเป็นการบ่มเพาะนิสัยใฝ่รู้ให้กับคนในองค์กรได้เป็นอย่างดี

...

เมื่อใดก็ตามที่ลูกหรือลูกน้อง เกิดความรู้สึกกระหายที่จะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ...

หากว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไปแล้วล่ะก็...ผมก็อยากเชิญชวนผู้บริหารหรือผู้ปกครองให้การสนับสนุน

เพราะนั่นหมายถึง "ลูก" หรือ "ลูกน้อง" ของเรามีจิตใจที่ใฝ่หาความก้าวหน้า

เมื่อพวกเค้าคิดอยากจะก้าวหน้า และเราสามารถผลักดันให้พวกเค้าก้าวหน้าได้...พวกเค้าก็จะกลายเป็นกำลังสำคัญให้ครอบครัวหรือองค์กรเติบโตขึ้น

...

แม้ว่า บางครั้งที่การฝึกอบรมหรือพัฒนาบางเรื่อง อาจจะไม่เกี่ยวพันกับงานโดยตรง หรือไม่ส่งผลลัพธ์อย่างทันทีทันใด...มันก็ยังคุ้มค่า!

คุ้มค่ายังไงน่ะหรือครับ?

ก็ตรงที่มันได้แสดงถึงทัศนคติที่บ่งบอกถึง "แรงผลักดัน" ที่มีในตัวของลูกหรือลูกน้องของเรา นั่นไง

อย่าลืมนะครับ...ว่า "ทัศนคติ" เป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนได้ "ยากที่สุด" เรื่องหนึ่ง

ดังนั้น เมื่อเรามีกำลังเพียงพอ เราจึงควรสนับสนุนให้ลูกหรือลูกน้อง "คงไว้" ซึ่งทัศนคติที่ดีๆ แบบนี้

...

บางคนอาจจะสงสัยว่า "ลงทุนกับลูก" น่ะ ยังพอเข้าใจได้...แต่ "ลงทุนกับลูกน้อง" น่ะ จะคุ้มค่าแน่หรือ?

เพราะเมื่อลูกน้องเก่งขึ้น เดี๋ยวก็ (อาจ) จะต่อรองขอนั่น นู่น นี่...ไม่ก็ลาออก

แบบนี้ จะคุ้มค่าหรือ?

ไม่รู้สิครับ...ผู้บริหารหรือนายจ้างหลายๆ คน อาจจะเคยเจอประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้มามาก

แต่ผมฝากไว้ให้ไปคิดต่อ

ถ้าเราเลี้ยงลูกแกะ...โตมามันก็จะเป็นได้แค่แกะ

แต่การที่เราเลี้ยงลูกน้องอย่างเต็มความสามารถ...แม้ว่าเริ่มต้นจะเป็นแค่ "ลูกแกะน้อย" แต่ไม่แน่ว่า พวกเค้าอาจจะเติบโตขึ้นเป็น "พญาเสือโคร่ง" ก็เป็นได้

แล้วก็อย่าไปกลัวว่า เมื่อพญาเสือโคร่งเติบกล้า แล้วก็จะละทิ้ง "ป่า" ที่ฟูมฟักไป

เพราะเราในฐานะเจ้าของป่า...ก็ต้องขยายอาณาเขตของป่าไปพร้อมๆ กันด้วย

...

แล้วก็ท่านเจ้าของป่าเอง ก็ต้องลองเดิมพันกับลูกน้องตัวเอง...ว่าเค้าเป็นลูกแกะจริงๆหรือเป็นลูกจิ้งจอกที่คลุมหนังลูกแกะไว้?

ถ้าเค้าเป็นแบบแรก...เราก็จะได้พญาเสือโคร่งไว้ประดับป่า

ส่วนถ้าเค้าเป็นแบบหลัง คือเก่งแล้วก็จากเราไป

...ก็แล้วจะไปเสียดาย "แกะปลอม" หรือ "จิ้งจอกเจ้าเล่ห์" ไปทำไมล่ะครับ?...

#NoteToSelf: 

  • มีลูกใฝ่ดีเป็นเรื่องน่ายินดี ส่วนการมีลูกน้องใฝ่ดีเป็นเรื่องน่าชื่นชม
  • เลี้ยงลูกแกะให้โตเป็นพญาเสือโคร่งได้...มันคือความภาคภูมิใจ
  • อย่ากลัวว่าลูกน้องจะเก่งแล้วจากไป...ที่ควรจะกลัวน่ะ คือการมีลูกน้องที่ไม่คิดจะเก่ง แล้วอยู่กับเราโดยไม่คิดจะไป มากกว่า!

Comments

Popular posts from this blog

Post#355: ทำได้ vs ทำเป็น

Post#355: ส่วนใหญ่แล้ว เรามักแยกแยะไม่ค่อยถูกว่า ระหว่าง "ทำได้" กับ "ทำเป็น" น่ะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน "ทำได้" แปลว่า ทำได้ ขอให้แค่เสร็จๆ ไป ไม่ต้องสนใจว่างานออกมาดีมั๊ย ส่วน "ทำเป็น" แปลว่า ไม่ใช่แค่สักแต่ลงมือทำ แต่ต้องทำให้ได้ดีด้วย ถ้ายังงงๆ ผมจะยกตัวอย่างเพิ่มให้นะครับ คนที่ขับรถได้ มีความสามารถในการทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ แต่อาจจะเป็นพวกที่ขับรถแบบไร้มารยาท, ขับรถอันตราย หรือขับรถเห็นแก่ตัว, ฯลฯ ส่วนคนที่ขับรถเป็นนั้น นอกจากสามารถบังคับให้รถเคลื่อนที่ได้แล้ว ยังใส่ใจคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย เรียกว่าขับรถอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ^^ ตีกอล์ฟได้ก็คือเหวี่ยงไม้ให้ลูกกอล์ฟไปข้างหน้า แต่ตีกอล์ฟเป็น นอกจากเหวี่ยงไม้ให้ลูกไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องใส่ใจคนที่เล่นกอล์ฟอยู่รอบๆ ทั้งก๊วนเรา ทั้งต่างก๊วนด้วย พอเห็นความต่างชัดขึ้นมั๊ยครับ? ขับรถได้จึงต่างจากขับรถเป็น, เล่นกอล์ฟได้จึงต่างจากเล่นกอล์ฟเป็น ฉะนี้ ดังนั้น "ทำงานได้ " กับ "ทำงานเป็น" นั้น คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ เอ...หรือว่าผมก็แค่ "โพสต์ได้...

Post#2-227: Corrective Action vs Preventive Action

Post#2-227: วันนี้ผมมีโอกาสดีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง หลักใหญ่ใจความสำคัญของการประชุมก็คือการติดตามยอดขายของสินค้าสำคัญบางรายการ ซึ่งขายช้ากว่าปกติ ภาพหนึ่งที่สามารถใช้ประเมินความแข็งแกร่งขององค์กร ก็มักจะถูกสะท้อนผ่านการประชุมไล่ยอดขายนี่แหละครับ เพราะยอดขายถือเป็นเป้าหมายสุดท้ายขององค์กรที่แสวงหาผลกำไรทั้งปวง เมื่อไล่ยอดขายครั้งใด ก็มักจะพบสาเหตุของปัญหา และจะสามารถประเมินระดับขององค์กรและผู้บริหารได้จากวิธีการ response ต่อปัญหาที่พบ บางองค์กรเก่งในการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่บางครั้งกลับไม่ได้มองไปถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และมีอีกหลายองค์กรที่ชวนคุยเรื่องการวางแผนป้องกันไฟไหม้ แทนที่จะหาวิธีดับไฟที่กำลังไหม้องค์กรอยู่ บ่อยครั้งที่การไม่ลำดับความสำคัญก่อนหลังในการแก้ปัญหา มักจะส่งผลเสียมากกว่าที่จะประเมินได้ ดังนั้น ทุกคนในองค์กรจึงต้องจัดการกับไฟที่ไหม้อยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะมาวางแผนป้องกันไฟไหม้ ซึ่งปีก่อนผมก็พูดถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว (Post#224) และแน่นอนว่า ไม่ใช่เก่งแต่การดับไฟตะพึดตะพือ หากต้องวางแผนป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ซ้ำๆ ซากๆ ด้วย หาไ...

Post#5-114: เพื่อนแท้ดีๆ คือเพื่อนดีแท้ๆ

Post#5-114: ค่ำนี้ ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เคยทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน อยู่พักใหญ่ๆ เอาจริงๆ ผมตกเป็นหนี้เพื่อนคนนี้ไม่น้อย ... เพราะเค้าคือคนที่ถ่ายทอดวิชาหลากหลายที่ผมนำมาใช้ต่อยอดในการบริหารงาน จนถึงทุกวันนี้ แม้จะเจอกันไม่บ่อย ... แต่ทุกครั้งที่เราได้เจอกัน ผมก็มักจะได้ idea ที่ดีๆ จากเพื่อนคนนี้ ไปต่อฝันปั้นงาน ได้ทุกที ... เอาจริงๆ เวลาได้ idea ใหม่ๆ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจใหม่ หรือวิธีทำงานแบบใหม่ ... ผมจะดีใจมากเป็นพิเศษ แม้ว่า idea ที่ว่า จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ... แต่ที่สำคัญ มันทำให้สมองของเราได้โลดแล่นออกจาก Comfort Zone เดิมได้ เมื่อได้ออกจาก Comfort Zone เดิมๆ ... มันจึงเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิต เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่เพิ่มขึ้น ... เรื่องใหม่ๆ ที่เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นนั้น แม้จะยังไม่อาจเกิดเป็นรูปเป็นร่าง หรือเป็นประโยชน์ในอนาคตอันใกล้ได้ ... ก็อย่าได้ดูแคลนไปครับ บ่อยครั้ง ผมพบว่า เรื่องบางเรื่องที่เราเรียนรู้มานานพอควรแล้ว กลับกลายมาเป็นประโยชน์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์ ...